วันศุกร์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2552

เด็กเก้าขวบจากอินเดีย คว้า Microsoft Certified

เด็กหญิงชาวอินเดียนาม M. Lavinashree สามารถสอบผ่าน Microsoft Certified Professional หรือ MCP ด้วยวัยเพียง 9 ขวบ กลาย เป็นผู้ที่อายุน้อยที่สุดในโลกที่ได้รับใบประกาศนี้ แซงหน้าเด็กหญิงชาวปากีสถานวัย 10 ขวบที่ได้รับไปก่อนหน้า

โดยเธอได้รับคะแนนถึง 842 จากคะแนนเต็ม 1000 คะแนน ซึ่งน้องคนนี้เคยสร้างสถิติมาก่อนหน้าด้วยการท่องกลอนความยาว 1,300 โครงด้วยภาษาทมิฬเมื่อวัยเพียง 3 ขวบ
ในแต่ละวันเธอจะตื่นตอนหกโมงครึ่ง และใช้เวลาในการเรียนคอมพิวเตอร์ประมาณสองชั่วโมง เธอเข้าเรียนคอสมัลติมีเดียนานหนึ่งปีเมื่อตอนชั้น Std. II ทำให้เธอเก่งในด้านอนิเมชั่น โปรแกรม Corel Draw, Photoshop, Illustrator, Flash, Dream Weaver และการออกแบบเว็บ

นอกจากนี้พ่อของเธอวางแผนที่จะให้เข้าทดสอบ Microsoft Certified Systems Engineer และ Microsoft Certified Systems Administrator อีกด้วย

ข้อมูลจาก - http://www.goosay.com/?p=1229

วันพฤหัสบดีที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2552

Facebook อีกโลกของสังคมออนไลน์

อีกหนึ่งสังคมออนไลน์ที่ได้รับความนิยมไม่แพ้ HI5 หรือ My Space อีกทั้งลักษณะหน้าตาที่ดูแล้วอาจจะคล้ายกัน แต่ถ้าคุณได้ลองเข้าไปสัมผัสจะพบว่า “Facebook” มีอะไรมากกว่าที่คิด
ก่อนอื่นขอแนะนำที่มาที่ไปของ Facebook สักนิดหนึ่ง ว่าเกิดจากการสร้างพื้นที่เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อนฝูงในมหาวิทยาลัยบนโลกไซเบอร์เท่านั้น จนขยายไปสู่มหาวิทยาลัยดังๆ ของเด็กหนุ่มวัย 23 ปี ที่มีนามว่า Mark Zuckerburg เด็กจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด จนกระทั่งปัจจุบันมีผู้สนใจจากทั่วโลกเข้าลงทะเบียนใช้งานมากกว่า 24 ล้านคน เฉลี่ยมีผู้ลงทะเบียนใหม่กว่า 1 แสนรายต่อวัน
Face คือเว็บไซต์ที่คุณสามารถสร้างหน้าโปรไฟล์ Facebook หรือข้อมูลของคุณเอง และนำไปเชื่อมโยงกับหน้าโปรไฟล์ Facebook ของคนอื่นๆ เพื่อให้คุณสามารถมีปฏิสัมพันธ์กับคนเหล่านั้นได้ ซึ่งขึ้นอยู่กับบริการของเว็บไซต์แต่ละห้อง เช่น เข้าไปดูรูปของเพื่อน เขียนไดอะรี ส่งข้อความส่วนตัว เขียนข้อความลงบนพื้นที่ในหน้าของเพื่อน ฟังเพลง ส่งเพลงให้กัน ท้าดวลเกม ฯลฯ ซึ่งคุณสามารถส่งข้อความพูดคุยกับเพื่อนตัวต่อตัว หรือจะส่งข้อความหาเพื่อนกลุ่มใหญ่ในครั้งเดียวก็ทำได้ทั้งนั้น

สิ่งที่ทำให้ Facebook โดดเด่นออกมาคือ ผู้ใช้งานต้องใช้ชื่อจริงและอีเมลเดียวกันในการลงทะเบียน และมีความต้องการที่จะรู้จักคนอื่นที่มีตัวตนจริงๆ บนโลกใบนี้
Facebook กลายเป็นที่พูดถึงต่อเมื่อมีการเปิดแพลตฟอร์มให้บรรดานักพัฒนาโปรแกรมทั้งหลายสามารถพัฒนาโปรแกรม หรือแอพพลิเคชันต่างๆ ใส่ไป Facebook ได้ วันนี้เราขอแนะนำแอพพลิเคชันเด่นมาสัก 3 ตัว 3 รูปแบบการใช้งาน คือแอพพลิเคชันที่เกี่ยวกับแผนที่อย่าง Whereyougonnabe ของ Peter Batty
Whereyougonnabe คือแอพพลิเคชันที่เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการแชร์แผนการเดินทางระหว่างกลุ่มเพื่อน ใน Facebook โดยสามารถกำหนดสถานที่และเส้นทาง ร่วมกับตารางนัดหมายของผู้ใช้ Facebook ข้อดีคือสามารถใช้ฟีเจอร์นี้ในการวางแผนการเดินทางและการนัดพบปะกับเพื่อนๆ ได้ โดย Whereyougonnabe ใช้ข้อมูลแผนที่และเส้นทางจาก Google Map โดยเชื่อมต่อกับสมุดนัดหมายที่อยู่ใน Facebook ของผู้ใช้ การใช้งานก็ง่าย เพียงแค่เพิ่มตัว Whereyougonnabe และปรับแต่งค่ารายละเอียดไม่มากนักก็ใช้งานได้อย่างง่ายดาย
ต่อมา Facebook Connect ที่จะทำให้ความเป็นสังคมของเว็บเพิ่มระดับขึ้นไปอีกขั้น คือ สมาชิก Facebook สามารถจะใช้ไอดีจาก Facebook เข้ามาใช้บริการเว็บไซต์อื่นที่เข้าร่วม Facebook Connect แล้วบรอดคาสต์กิจกรรมที่กำลังทำอยู่บนเว็บนั้นไปยังเพื่อนสมาชิก Facebook คนอื่น เช่น อาจจะเข้าไปดูวิดีโอบนเว็บไซต์หนึ่งแล้วเพื่อนในกลุ่มก็จะรับรู้ ชักชวนกันเข้ามาดูด้วยพร้อมๆ กัน ระหว่างนั้นก็มีปฏิสัมพันธ์หรือการสนทนาพูดคุยแสดงความคิดเห็นต่อสิ่งที่ดูร่วมกัน โดยไม่ต้องอาศัยโปรแกรมตัวช่วยอื่นๆ ไม่ต้องล็อกอินเข้าเว็บไซต์ใหม่ด้วยไอดีใหม่
ปิดท้ายด้วยเกมแอพพลิเคชันต่างๆ ที่มีใน Facebook ซึ่งเกมเหล่านี้ถือได้ว่าเป็นตัวดึงดูดให้คุณๆ ทั้งหลายเข้ามาใช้บริการ Facebook บ่อยและนานขึ้น อาทิ เกม Pet Society เป็นเกมคล้ายๆ กับทามาก็อตแรกเริ่มเลย เราสามารถเลือกรูปหน้า หู ตา คิ้ว จมูก สีตัว ได้ เราจะมีหมู่บ้าน โดยคนในหมู่บ้านก็คือเพื่อนที่เราแอดอีเมลกันไว้ หรือเป็นเพื่อนกันอยู่แล้วใน Facebook
ใน Facebook ยังมีแอพพลิเคชันอีกหลากหลายรูปแบบ ที่ถือได้ว่าเป็นจุดที่อาจทำให้มีสมาชิกเพิ่มถึง 200 ล้านคน อ้อ! สิ่งสำคัญในการใช้งานแอพพลิเคชันต่างๆ ต้องสมัครก่อนถึงจะเข้าสู่โลกนั้นๆ ได้ ซึ่งการใช้งานต่างๆ นั้นไม่ยากเลย
สำหรับผู้ที่สนใจเข้าสู่อีกหนึ่งสังคมออนไลน์ เข้าไปสมัครกันได้ที่ www.facebook.com

รายงานโดย :กัลยาณี แนวเล็ก:วันพฤหัสบดีที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2552 จาก http://www.posttoday.com/lifestyle.php?id=29085

ภาพหลุดบนเตียงหน้าเหมือน “อ้อม-ซันนี่” ประจานทั่วเน็ต

“อ้อม พิยะดา อัครเศรณี” เคยตกเป็นข่าวกิ๊กกับ “ซันนี่ สุวรรณ เมธานนท์” แต่จนแล้วจนรอดเจ้าตัวก็ออกมาปฏิเสธหัวชนฝายืนยันว่าไม่เคยคบกัน ไม่เคยสนิทกันมาก่อน..
“ก็เป็นคนรู้จักคนนึง หลังๆ ไม่ค่อยได้คุยแล้ว เมื่อก่อนก็มีคุยกันบ้างเหมือนคนรู้จักกัน โทรถามสารทุกข์สุขดิบกันไปมาแต่ไม่ค่อยได้คุยแล้ว ตอนนี้ก็มีโทรคุยกันบ้างนิดหน่อย บอกว่าไม่มีอะไรไม่ต้องซีเรียส ไม่ต้องกลัวว่าจะคิดมากหรือว่าอะไรว่ามีข่าวตามไปเฝ้า ไม่ต้องห่วง ไม่ได้กลุ้มใจ”
ส่วน “ซันนี่” ยืนยันดารารุ่นพี่แค่คนรู้จักเท่านั้น ไม่เคยเมาหัวราน้ำตอนเลิกรากัน
“ผมไม่ได้เป็นอะไรกับเขาอยู่แล้วนี่ครับตั้งแต่แรก เป็นแค่คนรู้จักครับ ทุกวันนี้คนมันเคยรู้จักมันก็ต้องรู้จักใช่มั้ยครับ แค่โทร.คุยกันยังไม่ได้โทร.คุยเลย ผมก็อยู่ปกติเหมือนทุกวันที่เป็นมา เราไม่ค่อยได้คุยอยู่แล้ว นานๆ ทีครับ เพราะช่วงนั้นมีข่าวบ่อยมั้งครับก็เลยคุยบ้างไม่งั้นก็คงไม่คุยฮะ เพราะผมไม่ยุ่งเรื่องชาวบ้านหรอกครับ(หัวเราะ)”
จนกระทั่งข่าวคราวเงียบหายไป โผล่มาอีกทีอ้อมก็เปิดตัวว่ากำลังดูใจกับ “อาท ศรา จุฑารัตนกุล” แถมยังมีข่าวว่ากำลังจะหมั้นหมายกันอีกด้วย แต่แล้วก็มีภาพหลุดหน้าเหมือน “อ้อม-ซันนี่” แก้มแนบแก้มเคล้าคลออยู่บนเตียงนอน ชนิดสนิทสนมกันสุดๆ สวนทางกับสิ่งที่เคยให้สัมภาษณ์ ส่วนจะสนิทกันแค่ไหนอย่างไรจะใช่ตัวจริงหรือไม่ เอาไว้ให้ “อ้อม” ไปเคลียร์กับหนุ่มอาทเองก็แล้วกัน

ข้อมูลจาก - http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9520000007515 (มีภาพ)

วันพุธที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2552

อัยการสั่งฟ้องมือยิงพนักงานสหวิริยาหวั่นคดีหมดอายุความ

นางจินตนา แก้วขาว ประธานกลุ่มอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมบ้านกรูด อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ แกนนำคัดค้านการก่อสร้างโรงถลุงเหล็ก เปิดเผยว่า อัยการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ได้สั่งฟ้องนายบำรุง สุดสวาท อดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 5 ต.แม่รำพึง อ.บางสะพาน ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ในคดียิงนายรักศักดิ์ คงตระกูลลูกจ้างชั่วคราวรายเดือนของบริษัทรับเหมาขุดคลองในพื้นที่ก่อสร้างโรงถลุงเหล็กเสียชีวิตเมื่อวันที่ 24 มกราคม 2551 ซึ่งแกนนำชาวบ้านเตรียมหาหลักทรัพย์ประกันตัวนายบำรุง ในชั้นศาล โดยคาดว่า จะเป็นในวันที่ 30 มกราคม นี้ ซึ่งนายไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์จะเดินทางมายื่นประกันตัวผู้ต้องหาด้วยตนเอง
นายสุวรรณ ทองกลอย ประธานสภาทนายความจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในฐานะทนายความของฝ่ายผู้เสียหาย กล่าวว่า การสั่งฟ้องของอัยการเป็นไปตามขั้นตอนกฎหมายหลังจากที่ได้มีคำสั่งแนะนำคดีโดยให้ตำรวจสอบสวนเพิ่มเติมเนื่องจากพยานระบุว่า น่าจะมีผู้ต้องหาเพิ่มเติม แต่ปรากฏว่า ยังไม่มีความคืบหน้าอัยการจึงต้องสั่งฟ้องนายบำรุงเพียงคนเดียวไปก่อนเพื่อไม่ให้คดีขาดอายุความ
นางเขียด คงตระกูล ภรรยาผู้เสียชีวิตกล่าวว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาได้สอบถามความคืบหน้าของคดีเนื่องจากเวลาผ่านมา 1 ปีแล้ว แต่ พ.ต.ท.จรูญศักดิ์ โต๊ะถม พนักงานสอบสวน (สบ 2) สภ.บางสะพาน ให้เหตุผลว่า คดีมีความละเอียดอ่อนจึงยังไม่มีความคืบหน้า ทั้งนี้สำหรับวันครบรอบ 1 ปีการเสียชีวิตของสามี ตนได้เตรียมทำบุญเลี้ยงพระโดยทำอย่างเรียบง่ายเท่านั้น

วันอังคารที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2552

ส.อ.ท.จี้รัฐชัดเจนนโยบายโรงถลุงเหล็ก

นายพยุงศักดิ์ สิทธิผล รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า หากรัฐบาลไม่มีความชัดเจนในการขับเคลื่อนโครงการเหล็กต้นน้ำ ที่มีมูลค่าการลงทุน 800,000 ล้านบาท จะส่งผลให้นักลงทุนต่างประเทศที่สนใจเข้ามาลงทุน อย่างประเทศญี่ปุ่น เปลี่ยนการตัดสินใจหันไปเลือกลงทุนในประเทศเวียดนามแทนได้จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่รัฐบาลจะต้องรีบตัดสินใจ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนสำหรับการเดินหน้าโครงการเหล็กต้นน้ำ นายพยุงศักดิ์ เชื่อว่าจะช่วยดึงอุตสาหกรรมอื่นๆ เข้ามาลงทุน หรือย้ายฐานเข้ามาในไทย และช่วยขยายฐานการผลิตสินค้าต่อเนื่องให้เติบโต รวมทั้งลดการนำเข้าเหล็กของไทยได้
ทั้งนี้เมื่อวันที่21 มกราคมที่ผ่านมา นายวิน วิริยประไพกิจ กรรมการเครือสหวิริยา ได้ประกาศหยุดการลงทุนโครงการโรงถลุงเหล็กที่ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งลงทุนไปแล้วกว่า 3,000 ล้านบาท โดยให้เหตุผลว่า นโยบายภาครัฐไม่ชัดเจน
ผอ.วิทยาลัยเหล็กยอมรับหยุดโรงถลุงเหล็กทำบัณฑิตตกงาน
นายสุรินทร์ นวลรอด ผู้อำนวยการสถาบันเทคโนโลยีเหล็กและเหล็กกล้าบางสะพาน อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า กรณีเครือสหวิริยาประกาศหยุดการลงทุนโครงการโรงถลุงเหล็กเนื่องจากรัฐบาลไม่มีความชัดเจนในด้านนโยบายนั้นยอมรับว่า ส่งผลต่อ เป้าหมายการผลิตบัณฑิตของทางวิทยาลัยโดยเฉพาะทางสถาบันฯมีการทำบันทึกข้อตกลงที่เครือสหวิริยาจะรับนักศึกษา เข้าฝึกงานและทำงานกับบริษัทในเครือ ปีละหลายร้อยคน ดังนั้นหากโครงการไม่สามารถดำเนินการได้การจ้างงานก็คงไม่เกิดขึ้น
“นักศึกษาที่เคยวางอนาคตไว้ว่าเมื่อสำเร็จการศึกษาแล้วจะทำงานที่พื้นที่ก็คงยังมองไม่เห็นอนาคตตัวเอง และอาจต้องไปหางานทำในพื้นที่อื่นมากขึ้น”
ผู้อำนวยการวิทยาลัยการอาชีพบางสะพานนายสมบูรณ์ ภู่งาม กำนัน ต.แม่รำพึง อ.บางสะพาน กล่าวว่า ผลกระทบที่เกิดกับชุมชนคือ การจ้างงาน เยาวชนที่จะได้ทำงานในพื้นที่ และใกล้บ้านต้องชะลอออกไป ดังนั้นต้องการให้ภาครัฐมีนโยบายที่ชัดเจนในเรื่องนี้
นายบุญชอบ พฤษกิจ อดีตกำนัน ต.แม่รำพึง กล่าวว่า คนในพื้นที่ส่วนใหญ่ ไม่ต้องการให้ย้ายโครงการไปต่างประเทศ ปัจจุบันตนประกอบอาชีพร้านอาหารและเลี้ยงปลาในคลองแม่รำพึง ก็ไม่ได้รับผลกระทบจากการมีโรงเหล็กในพื้นที่ จึงอยากให้ทุกคนมองเห็นประโยชน์ส่วนรวม หากเกิดสิ่งไม่ดีก็สามารถช่วยกันตรวจสอบ
ญาติทำบุญครบ 1 ปียิงคนงานสหวิริยา
นางลำภูหรือเขียด คงตระกูล ภรรยานายรักศักดิ์ คงตระกูล พนักงานที่ถูกยิงเสียชีวิตในเหตุการณ์ที่ชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์คัดค้านการปรับพื้นที่โครงการโรงถลุงเหล็กอ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2551 ว่า ได้ทำบุญเลี้ยงพระและร่วมไว้อาลัยครบรอบ 1 ปี การเสียชีวิตของสามีส่วนความคืบหน้าของคดีนั้นจากการสอบถามตำรวจเจ้าของสำนวนได้รับคำตอบว่า ไม่คืบเพราะรูปคดีมีความละเอียดอ่อนนายราเชนทร์ มณีสว่างวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บี.เอส.เมทัล ในเครือสหวิริยากล่าวว่า ได้นำคณะผู้บริหารและพนักงานกว่า 30 คน ร่วมทำบุญเลี้ยงพระ โดยบริษัทตระหนักถึงความสูญเสียอันยิ่งใหญ่ ของครอบครัวคงตระกูล เป็นอย่างยิ่งและนับว่าเป็นเหตุการณ์ที่ทุกคนไม่เคยลืม โดยจะดูแลครอบครัวและสนับสนุนทุนการศึกษาของด.ญ.พรพินิจ คงตระกูลบุตรสาวของนายรักศักดิ์ต่อไป

โอบามาคนเลข4สาบานตนเป็นประธานาธิบดีสหรัฐคนที่44แล้ว

ชัยขนะในการเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯคนที่ 44 ของนายบารัก โอบามา ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครต เมื่อเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2551 นอกจากจะมีสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจก็คือ การทำลายการเหยียดผิวสีของคนอเมริกัน เพราะนอกจากนายโอบามานับได้ว่าเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯคนผิวสีคนแรกในประวัติศาสตร์แล้ว นายโอบามายังถือได้ว่าเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯที่อายุน้อยคนหนึ่งที่สามารถก้าวขึ้นมาสู่ตำแหน่งที่ยิ่งใหญ่นี้ได้ แล้วนายโอบามามีอะไรดี
หากดูตามประวัติแล้วนายโอบามา เกิดเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2504 เป็นหนุ่มลูกครึ่งอเมริกันกับเคนยา ที่มลรัฐฮาวาย ปัจจุบันอายุ 47 และดูเหมือนว่าเขาจะเกิดมาเพื่อสร้างประวัติศาสตร์สหรัฐฯโดยแท้ เพราะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเลข "4" ซึ่งเป็นวันชาติของสหรัฐแม้นว่าเขาจะเกิดเดือนสิงหาคม แต่วันชาติสหรัฐฯเดือนกรกฎาคม แต่พ.ศ.เกิดของเขาก็เกี่ยวข้องกับเลข "4"
ดูตามประวัติแล้วนายโอบามาก็ไม่ได้เป็นคนวิเศษวิโสอะไรชีวิตวัยเด็กก็ค่อนข้างลำบากด้วยซ้ำ บิดาเสียชีวิตเมื่อเขาอายุได้ 21 ปีต่อมาอีก 13 ปี มารดาก็เสียชีวิตอีก แต่เขาใฝ่เรียนจนสามารถเรียนจบระดับปริญญาตรี จากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยโคลัมเบียที่มีชื่อเสียง ต่อจากนั้นเขาก็ทำงานเหมือนกับคนธรรมดาทั่วๆไป และเขาเริ่มงานสอนหนังสือวิชากฎหมายรัฐธรรมนูญที่คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยชิคาโกจนถึงปี 2004 นี่ก็เกี่ยวข้องกับเลข "4" อีกแล้ว
ในปี 2004 นี้เองเป็นปีที่ชื่อของเขาเริ่มเป็นที่รู้จักในวงการเมืองของสหรัฐฯ จากการได้รับเลือกเป็นตัวแทนวุฒิสมาชิกในสภาสูงจากรัฐอิลลินอยส์และเขาได้ร่วมกล่าวสุนทรพจน์ในงานประชุมพรรคเดโมแครตประจำปี ซึ่งสุนทรพจน์ของเขาในครั้งนั้นโดนใจชาวเดโมแครตหลายคน รวมทั้ง สื่อมวลชนด้วย
เรียกได้ว่าเขาเป็นนักการเมือง หนุ่มหน้าใหม่ที่มาแรงในยุคนี้ ด้วยประวัติทาง การเมืองยังค่อนข้างใสสะอาด ยังไม่มีผลงาน ที่ติดลบ เพราะยังมีผลงานไม่มากนัก แต่ด้วย ความที่เป็นคนที่มีวาทศิลป์ยอดเยี่ยม ผนวกกับมาดปัญญาชน สุขุม ลุ่มลึก และติดดินอยู่ในที สามารถเข้าถึงคนได้ทุกกลุ่ม ตั้งแต่นักการเมืองผู้หนาประสบการณ์ พนักงานบริษัทไปจนถึงเกษตรกร อีกทั้งสตรี เด็ก และคนชรา
และเมื่อวันที่ เมื่อวันที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2552 นายโอบามาสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีคนที่ 44 ของสหรัฐ ด้วยวัย 47 ปี พร้อมกับประกาศจะเปลี่ยนแปลงโลก แก้ปัญหาเศรษฐกิจยุติปัญหาสงครามโลก อย่างภาคภูมิ กลายเป็นผู้นำผิวสีคนแรกในประวัติศาสตร์ของประเทศ ท่ามกลางความยินดีของชาวอเมริกันและชาวโลกที่ต่างจับจ้องการเข้ารับตำแหน่งครั้งนี้ด้วยความตื่นเต้น

โบสถ์สเตนเลสหนึ่งเดียวในโลกที่กาญจนบุรีหรือ steel church

"โบสถ์สเตนเลส" หนึ่งเดียวในโลก สร้างที่ วัดปากลำขาแข้ง เขื่อนศรีนครินทร์ จังหวัดกาญจนบุรี โบสถ์ที่สร้างใหม่ ที่โด่งดังที่สุดในปัจจุบัน เห็นจะไม่มีที่ไหน สวยงาม วิจิตรพิสดารเกินกว่า โบสถ์ประดับกระจกที่วัดร่องขุ่น โดยอ.เฉลิมชัย ไปได้ และก็โด่งดัง จนกลบกระแส บดบังรัศมีของวัดอื่นๆไปหมด





เพราะวัดอื่นๆนั้น เขาก็สร้างโบสถ์รูปแบบดั้งเดิม เหมือนๆกันหมด จึงไม่แปลกอะไร ที่เห็นจะมีพอเทียบได้ในตอนนี้ ก็ต้องโบสถ์ที่นี่เลยครับ โบสถ์สเตนเลสที่วัดปากลำขาแข้ง อยู่ที่แยกทางน้ำ เข้าห้วยขาแข้ง ตอนบนสุดของเขื่อนศรีนครินทร์ เพราะมีเรื่องและรูป โพสลงในอินเตอร์เนทของฝรั่ง ว่าเป็น steel church แห่งเดียวในโลกทีเดียว
โบสถ์สเตนเลสหลังนี้ใช้งบประมาณการสร้าง 6 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินที่ประชาชนร่วมกันทำบุญเทิดพระเกียรติแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในพระชนมายุ 72 พรรษา โดยโรงงานทวีคูณซัพพลาย บ้านโป่ง ราชบุรี ที่มี คุณอุทัย เสียงแจ่มเป็นเจ้าของกิจการ
งานที่สร้างขึ้นนี้ใช้แรงงานเคาะขึ้นรูปเกือบทั้งหมด จากโรงงานยกเว้นลอนหลังคาจะมีเครื่องรีด ส่วนเสาจะใช้เครื่องม้วนแผ่นสเตนเลสแล้วนำมาเชื่อมต่อกันโดยงานทั้งหมดนี้ ทางสมาคมสแตนเลสแห่งประเทศไทย ให้การสนับสนุนพร้อมทั้งโรงงาน THAINOX ซึ่งเป็นโรงงานผลิตสเตนเลสอันดับหนึ่งของเมืองไทยด้วยครับ
เห็นครั้งแรกอาจจะคิดว่า เป็นสแตนเลสเงางามอย่างนี้แล้วพระจะไม่ร้อนแย่หรือ อย่าได้ห่วงเลยครับ ตัวโบสถ์ ทำโครงเป็นสเตนเลส ใช้สเตนเลสแผ่นปะทั้งด้านใน และด้านนอก แต่อัดฉนวนไว้ตรงกลาง ทำให้กันความร้อนได้ดี พื้นเป็นแกรนิต ภายในก็ไม่ร้อน ผิดคาดเลยทีเดียว เห็นรูปถ่ายยามค่ำแล้ว สวยงาม ไม่เป็นรองใครเลย
เพื่อ forward email มาให้ดู และข้อมูลจาก http://www.paklamkha-khaeng.com ยอมรับว่าเพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก นับได้ว่าเป็นพุทธานุสสติได้เป็นอย่างดี จึงขออนุโมทนาบุญกับเพื่อนๆๆที่ส่งต่อกันมา
จึงนำมารายงานสำหรับท่านที่ยังไม่ได้เห็นได้ร่วมอนุโทนาบุญด้วย

วันจันทร์ที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2552

ประธานหอการค้าชี้วิกฤติเศรษฐกิจโลกลุกลามถึงอาหารกระป๋องในไทย

นาย วิรัช ปิยพรไพบูลย์ ประธานหอการค้า จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า จากปัญหาเศรษฐกิจ ที่เกิดวิกฤติรุกลามไปทั่วโลกในขณะนี้ ทำให้อุตสาหกรรมการส่งออกสับประรดกระป๋อง ของ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้รับผลกระทบ เนื่องจากประเทศคู่ค้า คู่สัญญา ในแถบเอเชีย และยุโรป และตะวันออกกลาง มำคำสั่งซื้อสับประรดกระป๋อง จากประเทศไทย ลดลงไปกว่า 40 เปอร์เซ็นต์ทำให้โรงงานต้องชะลอการผลิต

ประธานหอการค้า จ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า เจ้าของโรงงานอุตสาหกรรมสับประรดกระป๋อง ยังได้รับผลกระทบโดยตรงจากการนำเข้ากระป๋องเหล็กบรรจุภัณฑ์จากต่างประเทศ ทำให้ที่ผ่านมามีต้นทุนสูง เนื่องจากประเทศไทย ยังไม่สามารถผลิตกระป๋องเหล็กบรรจุภัณฑ์ใช้เองได้ทำให้ต้องนำเข้ากระป๋องเหล็กบรรจุภัณฑ์จากต่างประเทศ เพื่อนำมาใช้บรรจุสับประรดกระป๋องในแต่ละปี มูลค่านับพันล้านบาท

"หงส์แดง"ถูก"ทอฟฟี่สีน้ำเงิน"ตีเสมอก่อนหมดเวลาอดนำจ่าฝูง

ลิ้งค์เนื้อหา - http://www.komchadluek.net/2009/01/20/x_spo_l001_332834.php?news_id=332834

ลิ้งค์คลิป-http://premiergoals.blogspot.com/2009/01/liverpool-vs-everton-19-jan-09.html

วันอาทิตย์ที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2552

สถาบันเหล็กเตรียมหารือบีโอไอเร่งเหล็กต้นน้ำ

นายวิกรม วัชระคุปต์ ผู้อำนวยการสถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า เพื่อให้โครงการเหล็กต้นน้ำในประเทศสามารถเดินหน้าไปได้อย่างรวดเร็ว สถาบันเหล็กฯ จะเข้าไปหารือกับนางอรรชกา ศรีบุญเรือง บริมเบิล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) ว่ามีความเป็นไปได้มากน้อยเพียงใดที่จะเลือกตัวนักลงทุนที่จะได้รับการส่งเสริมการลงโครงการเหล็กต้นน้ำเอาไว้ก่อน ในระหว่างที่สถาบันเหล็กเดินหน้าศึกษาผลกระทบด้านต่าง ๆ เพราะปี 2552 เป็นในช่วงที่เศรษฐกิจถดถอย ดังนั้นจึงเป็นช่วงเหมาะสมที่จะศึกษาเพื่อเตรียมความพร้อมของรองรับโครงการลงทุนเหล็กต้นน้ำ ซึ่งหากมีการก่อสร้งก็จะต้องใช้เวลาก่อสร้าง 3 ปีครึ่งถึง 4 ปี
นายวิกรม กล่าวว่า สำหรับการศึกษาเกี่ยวกับโครงการเหล็กต้นน้ำจะศึกษาว่า หากจะมีโครงการลงทุนเหล็กต้นน้ำเกิดขึ้น จะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างไร ทั้งผลกระทบทางทะเล และบนชายฝั่ง รวมถึงผลกระทบทางสังคม สุขอนามัย ตลอดจนผลกระทบทางเศรษฐศาสตร์ด้วย ซึ่งการดำเนินการบางเรื่องเช่นผลกระทบทางทะเลอาจใช้เวลาศึกษานานกว่า 1 ปีซึ่งสถาบันเหล็กได้มอบหมายให้มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เป็นผู้ทำการศึกษา โดยการศึกษาจะดำเนินการทั้งพื้นที่มีการศึกษาอยู่เดิมตามรายงานของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) และที่สถาบันเหล็กหาเพิ่มเติม โดยจะมีการส่งนักสำรวจลงไปวิเคราะห์สภาพใต้ทะเลถึงสภาพทางธรรมชาติว่า มีปะการังหรือไม่อย่างไรและจะถึงการไหลเวียนของกระแสน้ำในฤดูต่าง ๆ หากมีการก่อสร้างโครงสร้างในทะเลแล้ว จะมีผลกระทบอย่างไรบ้าง และตลอดจนวิธีการก่อสร้างที่จะลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้น นอกจากนี้ ในส่วนพื้นที่บนบกก็จะพิจารณาด้วยเช่นกันว่า พื้นที่ต่าง ๆ ที่อยู่ในตัวเลือกที่จะรองรับโครงการเหล็กต้นน้ำกระแสลมเป็นอย่างไรบ้างและหากก่อสร้างโรงงานจะต้องดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างไร ขณะเดียวกันก็จะดำเนินการศึกษาผลกระทบทางสังคม สุขอนามัยซึ่งจะได้รับความร่วมมือจากมหาวิทยาลัยมหิดล เพื่อนำไปสู่การวางหลักเกณฑ์และข้อกำหนดที่จะดูแลสิ่งแวดล้อมชุมชน
นายวิกรม กล่าวว่า พื้นที่ 4 แห่งตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) ศึกษาความเหมาะสมไว้ คือ จังหวัดชุมพรบริเวณอำเภอประทิว จังหวัดนครศรีธรรมราช อำเภอสิชล และอำเภอขนอม สุราษฎร์ธานีที่อำเภอดอนสัก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ที่อำเภอกุยบุรี นั้น สถาบันเหล็กเห็นว่า จังหวัดชุมพรมีความเหมาะสมมากกว่าพื้นที่อื่น ๆซึ่งการประเทศไทยใช้เหล็กประมาณปีละ 12 ล้านตัน โดย 7 ล้านตันเป็นเหล็กคุณภาพทั่วไป และอีก 5 ล้านตันเป็นเหล็กคุณภาพพิเศษนั้น หากเกิดการลงทุนในประเทศไทย จะมีระบบสาธารณูปโภคลงทุนตามมาอีกจำนวนมาก ประโยชน์ที่ได้นอกจากลดการนำเข้าเหล็กแล้ว ยังได้ผลประโยชน์จากการใช้ระบบสาธารณูปโภคที่เกิดขึ้นต่อเนื่องจากโครงการเหล็กต้นน้ำอีกด้วย

วันเสาร์ที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2552

วันเกิดบอกความเจ้าชู้ของคุณได้

วั น จั น ท ร์

คน เกิดวันจันทร์มักมีดวงเกี่ยวกับความรักในแบบที่ลึกซึ้ง ไม่รักเพียงหวือหวาให้ตื่นเต้นเร้าใจเท่านั้น ด้วยธรรมชาติและพื้นดวงที่เป็นคนช่างคิดช่างตรองรอบคอบกับทุกเรื่องราวเสมอ ดังนั้นกับในเรื่องรัก คุณจึงต้องมั่นใจก่อนที่จะเอื้อมมือไปคว้ามาแนบใจ เสน่ห์ที่โดดเด่นของคนวันจันทร์อยู่ที่ศิลปะในการพูดจาทำให้ใครๆ หลงเคลิ้มได้เสมอ และยังเป็นคนฉลาดมีไหวพริบดีอีกด้วย นั่นเป็นจุดเด่นที่ทำให้คนรอบข้างชื่นชมเป็นพิเศษ แต่แม้ว่าจะมีใจชอบใครคนวันจันทร์ จะไม่เปิดเผยทุกอย่างแก่คนรักเนื่องจากเป็นคนมีโลกส่วนตัว ชอบเก็บบางเรื่องราวไว้กับตัวเองเหมือนกับที่เป็นคนชอบอิสระ และรักสนุกไม่น้อยเลยทีเดียว คนเกิดวันจันทร์จริงๆ แล้วมี 2 แบบคือแบบ ที่ควักเงินทุ่มให้คนรักแบบสุดๆ กับอีกประเภทคือ เหนียวสุด ๆ กับคนรัก คุณเป็นแบบไหนก็คงต้องตรวจสอบดูตัวเอง แต่ที่มีอยู่ในตัวคนวันจันทร์ทั้ง 2 แบบ ก็คือมักจะงคนที่อ่อนวัยกว่าเพราะอยากที่จะดูแลคนรักของตน แบบแสนห่วงหวง และคุณก็มักชอบมีรักแบบที่ค่อยๆ ใกล้ชิดติดใจกันไปทีละนิด คุณแพ้คนที่เข้าใจคุณถ่องแท้ ดวงของคุณจึงมีแนวโน้มที่จะพบรักที่ซาบซึ้งตรึงใจและมีความผูกพันกันมาก เพราะเป็นความรักที่มีพัฒนาการเต็มไปด้วยความเข้าใจในกันและกัน พยายามที่จะรู้จักตัวตนแท้ ๆ ของกันและกันนั่นเอง คนวันจันทร์โชคดีที่ได้งกับคนคล้ายๆ กัน รสนิยมไม่ต่างกันราวฟ้ากับดินนัก คุยกันรู้เรื่อง ถ้าใครที่ดูดีอย่างเดียว แต่คุยกันไม่รู้เรื่อง ทัศนคติต่างกันมาก ๆ คนวันจันทร์จะละความสนใจทันที หากเมื่อใดที่อกหัก คนวันจันทร์ก็จะไม่ฟูมฟายมากนักแม้จะปวดใจเพียงใด คนที่เป็นคู่รักของคนวันจันทร์ได้ดีต้องมีลักษณะของความเป็นเพื่อน เฮไปไหน ๆ ด้วยกันได้ ถ้าทำสวีทเป็นเจ้าของเกินไป มักอยู่กับคนวันจันทร์ได้สั้นกว่าที่หวัง

วั น อั ง ค า ร

คน เกิดวันนี้ มีหัวใจกล้าได้กล้าเสียในเรื่องความรักนั้น ถือคติว่าเสี่ยงเป็นเสี่ยงกันตามประสาคนชอบสนุก เจ้าสำราญพอสมควร คนวันอังคารเจ้าชู้ จึงมีดวงในเรื่องความรักที่โดดเด่น คือได้พบรักเสมอๆ มักงคนเด่น ๆ ที่ดูดีกว่าใครในกลุ่มคนที่มีท่าเรียบง่ายจนเกินไป ค่อนข้างเชยๆ ไม่ใช่คนแบบที่คุณจะสะดุดตาสะดุดใจแน่นอน ใครก็ตามที่ห้าวเกินเหตุ คนวันอังคารก็ยากจะตัดใจ คิดชอบพอความสดใส มั่นใจในตัวเอง คือเสน่ห์ที่ทำให้ใครๆ หลงรักคนเกิดวันอังคาร และนิสัยที่แข็งเกินไปของคุณก็คือตัวการสำคัญที่จะทำลายความรักให้พังทลายไป อย่างน่าเสียดาย ยามหลงรักใคร คุณจะตามติดหวังพิชิตให้ได้ เมื่อสมใจแล้ว คุณกลับไม่ยอมให้คู่รักมาเปลี่ยนแปลงความเป็นตัวตนที่แท้ของคุณ ถ้าใครยอมคุณได้ก็รักกันได้นานแน่นอน โดยทั่วไป ดวงในเรื่องความรักของคนวันอังคาร ไม่ค่อยมีอุปสรรคอะไรนัก จีบใครหรือทอดสะพานให้ ใครก็มักสำเร็จเสมอ อยู่ที่ว่าตัวคุณเองนั่นแหละ จะเป็นฝ่ายจืดจางห่างเหินอีกฝ่ายเสียก่อน ตามประสาคนเจ้าชู้ที่หัวใจอ่อนไหว และอยากคบคนใหม่ๆ เพราะรู้สึกว่าเป็นเรื่องท้าทายดีชอบหาความมั่นใจให้ตัวเองด้วยเรื่องรักๆ ใคร่ๆ บางครั้งทั้ง 4 ห้องหัวใจเต็มหมด ห้องไหนทนไม่ไหวโบกมือลาไปคุณก็ไม่เสียใจ มีใครคนใหม่มาแทนได้เร็วเสมอ ดวงความรักค่อนข้างดี ตัวเองไม่มีปัญหา แม้จะชอบตามใจตัวเอง แต่ก็ไม่ค่อยเอะอะเอาเรื่องกับความรักจริงจังนัก ปัญหามักเกิดขึ้นเพราะคนรักของคุณ ซึ่งคิดจะเอาเรื่องกับคุณให้ได้ หรืออาจเป็นเพราะความใจร้อนของคุณบ้าง โดยที่คุณไม่ได้ตั้งใจจะให้เกิดการแตกหักหรอก ดังนั้นถ้าใครเข้าใจคุณก็สามารถควงกับคุณได้นานเป็นพิเศษ

วั น พุ ธ

คน ที่เกิดวันพุธ เป็นคนที่ต้องพัวพันกับเรื่องรักๆใคร่ๆเสมอ เพราะดาวพุธ เป็นสัญลักษณ์ของดวงดาวประจำเทพีแห่งความรัก คุณผู้หญิงวันพุธจึงเป็นคนรักสวยรักงามเป็นพิเศษ คุณผู้ชายก็สำอางไม่เบา ถ้าผู้ชายคนใดที่บำรุงผิวหน้าด้วยโลชั่นหรือพรมน้ำหอมเสมอก่อนออกจากบ้าน จนใครๆ เกือบจะคิดว่าเป็นเกย์ละก็ที่แท้เขาคนนั้นเป็นคนวันพุธนั่นเอง เมื่อรักใครชอบใครคนวันพุธจะเทคแคร์เอาใจได้ละเมียดละไมที่สุดยิ่งกว่าคน เกิดวันอื่นๆ แต่ด้วยความที่รักตัวเองมาก หลงตัวเองพอสมควร ดังนั้นคุณจึงต้องการให้คนพิเศษของคุณ ทุ่มเทรักให้คุณสุดหัวใจ ถ้ารู้สึกว่ายังได้ความรักจากเขาหรือเธอไม่มากพอ คุณจะร้ายใส่ทันที
แม้เสน่ห์ของคนวันพุธจะอยู่ที่ความอ่อนหวานก็เถอะ ยามหึงหวงหรือโกรธเคืองแล้วจะปากร้ายมาก แต่ในจิตใจไม่พิษร้ายใดๆ เป็นคนใจกว้างและเป็นคนซื่อตรงซื่อสัตย์มากด้วยซ้ำ เพียงแต่คิดมากขี้ระแวงเท่านั้นเอง ดวงความรักของวันพุธค่อนข้างอาภัพ ทั้งๆ ที่มีคนมารักจริงแบบหวังแต่ง แต่ก็มักจบลงเพราะความไม่มีเหตุผลอย่างสุดๆ ของคุณเอง เรื่องที่จะผิดหวังเพราะไปรักเขาข้างเดียวนั้นก็มีบ้าง แต่เกิดขึ้นไม่บ่อยนักหรอก ถ้าจะผิดหวังจนเสียหน้า ก็เป็นเพราะไปหลงเชื่อคนที่มาหวังผลประโยชน์จากคุณโดยไม่ได้รักคุณจริง เนื่องจากคนวันพุธฉลาดในเรื่องอื่น แต่ไม่ทันคนนักหรอก ที่ว่าดวงความรักของคนวันพุธอาภัพก็เพราะว่า แม้บางจังหวะชีวิตจะมีรักแสนซึ้งเพียงใดก็กลับต้องเลิกร้างกันทั้งๆ ที่ยังรักบางคนก็อาภัพแบบมีแต่รักเทียมๆ สั้นๆ ไม่ดื้อไม่ดื่มด่ำลึกซึ้งนานวันให้อิ่มใจนักคนเกิดวันพุธบางคนก็มีความ สัมพันธ์ รักที่ยั่งยืนอบอุ่น แต่มักไม่ใช่เป็นคนที่คุณหลงรัก อย่างปักจิตปักใจมาก่อน นับเป็นดวงแห่งความรักที่ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว

วั น พ ฤ หั ส

ถ้า คุณเกิดวันพฤหัส คุณก็ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องความรักของคุณหรอก เพราะดวงในเรื่องความรักค่อนข้างดี หมายถึงดวงคู่แท้ ๆ ที่เป็นความรักแท้ๆในชีวิตด้วยเช่นกัน พื้นฐานนิสัยของคุณแม้จะห้าวหาญวู่วาม และตรงไปตรงมาจนน่าถอยห่าง แต่เสน่ห์ของคุณมีเสมอกับเพศตรงข้าม ทำให้ไม่มีช่วงใดที่ไร้คู่นานวันนักนอกจากบางช่วงคุณจะยังไม่คิดในเรื่องนี้ จริงจังเท่านั้น คนวันพฤหัสเจ้าชู้แค่อารมณ์เท่านั้น ไม่ได้เจ้าชู้เป็นนิสัยถ้าเจอะเจอคนหล่อหรือคนสวยในแบบที่พึงพอใจ ก็จะส่งสายตาไปก่อนอื่น แต่ไม่ใช่คนที่จะต้อง ปราดเข้าไปขอทำความรู้จักทันใด แม้จะเป็นคนกล้าแกร่งปานใดก็เถอะ เว้นแต่ว่าถ้าได้รู้จักกันแล้วและหลงรักเข้าแล้วเท่านั้นที่คนวันพฤหัสจะ ติดตามผลงานอย่างตั้งใจ จนกว่าจะได้ใจของใครคนนั้นไม่มีวันที่คุณจะจีบเล่นๆ แบบนินจาเดี๋ยวมาเดี๋ยวหายแน่นอน คนวันพฤหัสเป็นคนแข็งนอกอ่อนใน และมีดวงแบบตกหลุมรัก เมื่อแรกสบตาได้มากกว่าคนเกิดวันใด น้อยเหลือเกินที่จะเห็นคนวันพฤหัสมีความรักกับเพื่อนที่คบกันนานปีแล้ว ค่อยๆ พัฒนาเป็นความรักและในกรณีที่เป็นคู่รักกันแล้วหากมีเรื่องปะทะอารมณ์ใส่กัน คุณก็จะปิดปากเงียบไม่ยอมขอโทษว่าตนผิดเอง ทั้งๆ ที่ในใจคุณอยากง้อใจจะขาด นอกจากว่าทะเลาะกับคู่รักบ่อยๆ ครั้งจนรู้สึกชินแล้วนั่นแหละคุณถึงจะง้อเป็น กล้าที่จะเอ่ยคำว่าเสียใจออกไปได้ ในท่วงท่าที่ดูเป็นคนมุทะลุวู่วามไม่จริงใจกับใครแท้จริงแล้ว คนวันพฤหัสเป็นคนรักที่คงมั่นมาก ตามดวงชะตาบ่งบอกว่าเป็นคนรักจริงหวังแต่ง มักได้คู่ดี เว้นแต่บางช่วงจะไปรักคนผิดจนเดือดร้อนไม่น้อย ดวงความรักของคุณ หากจะมีปัญหา ก็อยู่ที่อารมณ์เท่านั้น ถ้าร้อนเจอร้อนก็จบเร็วแน่ ถ้าคุณลดไฟในอารมณ์ตัวเองได้หรือเลือก คนใจเย็นเป็นน้ำ ก็รักกันยั่งยืนยากจะแตกร้าวได้

วั น ศุ ก ร์

คน วันศุกร์ไม่แสดงออกถึงความเจ้าชู้เด่นชัดอย่างคนวันอาทิตย์ แต่จริง ๆ แล้วเป็นคนเจ้าชู้เงียบ แอบโปรยเสน่ห์อยู่บ่อย ๆ เหมือนกัน ซึ่งก็มีคนหลงปลื้มอยู่เสมอไป ด้วยความที่เป็นคนอ่อนโยน ฉลาด รอบรู้ มีมนุษยสัมพันธ์ดีพอควรคนวันศุกร์ชอบทำตัวน่ารัก แต่ถ้าเริ่มคบหาจริงจังกับหวานใจแล้ว จะแสดงความดื้อดึงออกมาทันที เพราะเป็นคนเอาแต่ใจตัวเองไม่น้อย ดวงความรักของคุณจึงแสนซึ้งในช่วงต้น ๆ เพราะพื้นดวงเป็นคนสุภาพ น้อยคนนักที่จะห้าวมากๆ นอกจากเกิดในวันศุกร์ และถ้าความรักจะมีปัญหาก็มักเป็นเพราะตัวคุณเอง เนื่องจากเป็นคนช่างคิดอยู่แล้ว จึงคิดมากคิดไกลเกินไปเสมอและเป็นเหตุร้าวฉานในความสัมพันธ์ได้ไม่ยาก ดวงความรักของคุณค่อนข้างไม่ธรรมดา ความรักแท้มักเกิดขึ้นกับคนที่รอบข้างแอบส่ายหน้า ว่าไม่เหมาะสมกัน ถ้าไม่แก่หรืออ่อนวัยกว่ามากๆ ก็อาจแตกต่างกันที่ฐานะ หรือการศึกษา ด้อยกว่าในเรื่องใดเรื่องหนี่งแน่นอนและมักจะได้แสดงถึงความรักแท้เหมือนใน หนัง คือการฝ่าฟันกับกระแสการกีดกันของครอบครัว เปอร์เซ็นต์ส่วนใหญ่จะเป็นในรูปนี้ ถ้าใครได้คู่ที่สมกันดีไม่มีใครห้ามปรามก็ต้องนับว่าโชคดี คงมีดวงในราศีเกิดหรืออิทธิพลอื่นๆ ที่เสริมให้ดวงความรักไปได้ดีกว่าพื้นดวงที่น่าจะเป็นเช่นนั้น แต่สุดท้ายแล้ว คนวันศุกร์จะแฮปสมหวังเสมอ ไม่ค่อยผิดหวังในเรื่องรัก นอกจากจะมีทุกข์ในหัวใจที่ตัวเองคิดเองรู้สึกเองไม่ใช่คนที่คุณรักก่อขึ้น หรอก หรือบางกรณีก็เป็นเพราะคุณแอบหวั่นไหวไปปลื้มคนอื่นแล้วผิดหวัง ถ้าดูแลหัวใจตัวเองให้ดี ๆ ไม่วอกแวกไปไหนคุณก็มักมีคู่รักที่คบกันเนิ่นนานจนเพื่อนๆ อิจฉาเสมอแน่นอน

วั น เ ส า ร์

ถ้า คุณเกิดวันเสาร์บดี มั่นใจได้เลยว่าคุณจะเป็นคนรักที่ดีให้ใครคนนั้นได้ภาคภูมิใจแน่ เพราะคุณมีทั้งความเอื้ออารี มีน้ำใจ เป็นคนสติปัญญาดี มีความยุติธรรมเป็นคนที่ใครก็ยอมรับและชื่นชมคุณเป็นคนรักจริงเกลียดจริง ถ้าเกลียดใครก็ไม่เสแสร้งคบหาต่อไปให้ต้องฝืนตามวิสัยของคุณวันเสาร์บดี ที่ตรงพอสมควร ดวงในเรื่องความรักของคนวันเสาร์บดี ไม่ค่อยโลดโผนพิสดารมากนัก ความรักค่อยเป็นค่อยไปอย่างเรียบง่าย หากจะมีเรื่องปวดหัวใจบ้างก็เป็นเพราะความมองโลกในแง่ดีเกินไป บางครั้งจึงหลงคารมคนไม่จริงใจหรือบางครั้งก็คิดไปเองว่าใครคนนั้นมีใจด้วย ทั้งๆ ที่ไม่ได้เป็นดั่งที่แอบคิดแอบหวั่นไหว คนเกิดวันเสาร์บดีเป็นคนใฝ่รู้ ถ้าช่วงใดเจ็บหัวใจ ก็จะทำใจด้วยการทุ่มเทในเรื่องที่มีสาระ มีประโยชน์กับชีวิต ความน่ารักของคนอยู่ที่ความสดใส เปิดเผย มีความมุ่งมั่นเสมอ ไม่ใช่คนที่เลื่อนลอยไร้สาระ ไม่บ่อยนักที่จะเห็นคนวันเสาร์บดีอีกลักษณะหนึ่งคือไม่ค่อยเรียบร้อยและขาด ความสุขุมรอบคอบ คนวันเสาร์บดีไม่ค่อยเจ้าชู้ แม้จะดูมีท่าทีเข้ากับคนง่ายสดใสเป็นกันเองแต่ไม่ได้ชอบใครง่าย ๆ เสมอไป ถ้ารักใครก็จะรักอย่างซื่อสัตย์ หากจะผิดหวังก็ดังที่กล่าวมาแล้ว คือการไปรักคนผิด คิดว่าดีที่แท้ไม่ใช่ ดวงความรักดของคนวันเสาร์บดีนั้นจะมีรักจริงจังก็ต่อเมื่อพบเจอคนที่เรียบ ง่ายคล้ายๆกัน ไม่ใช่ฟู่ฟ่าหรูหราเกินไปนัก คิดแต่เรื่องสร้างสรรค์มากกว่าเรื่องเฮฮาปาร์ตี้ ปัญหาในรักมักใม่ใช่อยู่ที่ตัวคุณเอง เพราะคุณอดทนได้เสมอแต่คนที่คุณรักต่างหากที่จะนำเรื่องปวดหัวมาให้

วั น อ า ทิ ต ย์

คน เกิดวันอาทิตย์ มีดวงชะตาในเรื่องรักที่ค่อนข้างดีพอสมควร ไม่ค่อยจะมีปัญหาปวดหัวปวดใจ จนเดือดร้อนเพราะเรื่องความรักอย่างคนเกิดวันอื่นๆ เนื่องจากพื้นฐานนิสัยที่เป็นคนเด็ดเดี่ยว หนักแน่น คุณจึงคบใครก็คบอยู่คนเดียว พอเลิกกันเมื่อใดจึงค่อยมีรักใหม่ แต่คนวันอาทิตย์จะไม่ออกไปวิ่งไขว่คว้าหารักมาใส่ตัวหรอก นอกจากรอให้กามเทพแผลงสอนเองตามธรรมชาติดีกว่า แม้จะดูสุขุม มีระบบระเบียบ เป็นคนตรง หัวแข็งไม่เบา แต่ในใจคนวันอาทิตย์ก็อ่อนไหวไม่อยากกับเรื่องรัก เห็นใครถูกใจก็ชอบแต่ก็รู้จักยับยั้งใจ ไม่วิ่งเข้าประกบทันทีเด็ดขาด ถ้าจะมีความเจ้าชู้ ก็เจ้าชู้เงียบ แต่ไม่ใช่เงียบแบบแอบเอาจริงอย่างคนวันจันทร์ เพราะคนวันอาทิตย์จะแค่มอง รู้สึกชอบ ส่งยิ้มไปบ้าง แต่ก็ไม่คิดอะไรมากกว่านั้น ดวงความรักของคุณ เป็นลักษณะที่มีความสัมพันธ์มีความผูกพันธ์ เต็มไปด้วยความลึกซึ้งไม่ใช่รักแบบตื่นเต้นเร้าใจสั้นๆ แล้วจบลงเหมือนเพียงจุดพลุดอกไม้ไฟ คนวันอาทิตย์ทำให้คนอื่นประทับใจได้เสมอ กับความสุขุมทระนงอดทนมุ่งมั่นใส่ใจคนรักอย่างเสมอต้นเสมอปลาย แต่ถ้าใครคนนั้นฟู่ฟ่าหรูหราใช้เงินกระหน่ำเกินไปคุณก็ไม่ชอบใจเหมือนกัน ความที่เป็นคนช่างเลือกคนวันอาทิตย์ จึงไม่ใช่คนประเภทที่มีใครๆ เคียงข้างอยู่ตลอดเวลา บางปีถ้าไม่งใครมากๆ ก็ยอมเปลี่ยวใจตลอดปีไม่ซีเรียส ถ้าคนวันอาทิตย์ถูกใจใคร จะใช้เวลาดูใจดูนิสัยก่อนจะดำเนินความสัมพันธ์ต่อไปให้ลึกซึ้ง ด้วยความขี้ระแวงไม่ไว้ใจใครง่ายๆ ต้องดูแล้วดูอีกกว่าจะตัดสินใจเรื่องความเหมาะสมกัน คุณก็คิดมาก กว่าคนวันเกิดใดไม่ว่าจะเป็นเรื่องอายุหรือฐานะ เช่น อีกฝ่ายรวยกว่ามากหรือจนกว่ามากๆ คุณก็จะคิดมาก แม้จะรักแล้วแต่ก็ลังเล หรือถ้าอายุน้อยกว่ามากๆ หรือแก่กว่ามากๆ ก็กลัวว่าคนอื่นจะคิดยังไงช่องว่างระหว่างวัยจะมีหรือไม่ นี่หละคือสไตล์ความคิดของคนวันอาทิตย์ ปัญหารักในเรื่องอื่นๆ ไม่ค่อยมีหรอก นอกจากจะสับสนกับตัวเอง


ที่มา : http://www.thaiza.com/

สหวิริยาร่วมขับเคลื่อนเหล็กต้นน้ำเป็น“วาระแห่งชาติ”

นายวิน วิริยประไพกิจ กรรมการเครือสหวิริยา เปิดเผยว่า พร้อมร่วมภาคส่วนต่างๆผลักดันอุตสาหกรรมเหล็กต้นน้ำเป็น “วาระแห่งชาติ” โดยจะเข้าร่วมเวทีสัมมนา“เหล็กไทย สร้างไทย” ซึงสถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทยจัดขึ้นใน วันที่ 21 มกราคม นี้ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์โดยมี นายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมเป็นประธานเปิดงาน

นายวินกล่าวว่า อุตสาหกรรมเหล็กต้นน้ำ เป็นความจำเป็นเร่งด่วน ที่ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันเร่งผลักดันให้เกิดขึ้นเพื่อแก้ปัญหาวิกฤติเหล็ก 5 แสนล้าน ที่ประเทศไทยต้องเสียดุลการค้าจากการนำเข้าเหล็กในแต่ละปี และเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับอุตสาหกรรมต่อเนื่องต่างๆ ของไทยได้อย่างยั่งยืนซึ่งในส่วนของเครือสหวิริยาเองพร้อมที่จะดำเนินโครงการ “โรงถลุงเหล็กและผลิตเหล็กกล้าครบวงจร” ด้วยศักยภาพของพื้นที่อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

ซึ่งเป็นที่ตั้งที่มีความเหมาะสมในเชิงยุทธศาสตร์ ความพร้อมด้านแหล่งวัตถุดิบ บุคลากรที่มีศักยภาพ การออกแบบเครื่องจักร อีกทั้งยังมีแผนการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาอุตสาหกรรมเหล็กเพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของอุตสาหกรรมเหล็กในเวทีโลกอีกด้วย

“เราบริโภคเหล็กเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เห็นได้ชัดเจนเมื่อปีที่ผ่านมาเพียง 8 เดือน ไทยนำเข้าเหล็กเทียบเท่ากับปี 50 เกือบทั้งปี ปี 51 ทั้งปีคิดเป็นมูลค่ากว่า 6 แสนล้านบาทแล้ว ถ้าเรายังไม่มีอุตสาหกรรมเหล็กต้นน้ำเป็นของตัวเองในวันนี้ ก็จะทำให้ไทยสูญเสียโอกาสสำคัญ อย่างมาเลเซีย เราเคยนำเขา 5 ปี เพราะเราคิดเรื่องนี้มา 10 ปีแล้วตอนนี้เขาไล่เราทันเพราะกำลังก่อสร้างโรงถลุงเหล็ก เรามีฐานการผลิตและเทคโนโลยีการผลิตที่ใหญ่กว่า ถ้าวันนี้ยังไม่ได้ทำ ถือว่าทั้งประเทศช้ากว่าเขาในอุตสาหกรรมนี้ และต่อไปเราจะตามเขาไม่ทันเลย” นายวินกล่าว

วันพฤหัสบดีที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2552

ใส่แหวนอย่างไรให้ถูกต้องตามหลักโหราศาสตร์

เพราะชายหญิงมีธาตุที่แตกต่างกันจึงมีวิธีการที่แตกต่างกัน จะเชื่อหรือไม่ก็ตาม แหวนวงน้อยนี้ สามารถคุ้มครองผู้สวมใส่ได้เช่นกัน เรื่องนี้เป็นวัฒนธรรมที่มีมาแต่โบราณกาล อย่างที่ขุดได้ในกรุสมัยโบราณ ลองไปดูที่พิพิทธภัณฑ์เจ้าสามพระยาที่จังหวัดอยุธยา ก็จะมีแหวนหยกแหวนทองคำแท้และรัตนชาติต่างๆ รวมอยู่ด้วย สิ่งนี้เป็นหลักฐานพยานที่ดีอย่างยิ่ง ลองดูรายละเอียดต่อไปนี้

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์
ท่านที่เกิดวันอาทิตย์ ผู้หญิงให้สวมแหวนมือข้างซ้าย ส่วนผู้ชายสวมแหวนมือข้างขวา ตัวเรือนควรทำจากทองแท้ เงินแท้หรือหยก ถึงจะส่งพลังดี ๆ ออกมาคุ้มครอง ในการสวมแหวน หากเป็นผู้ชายให้เน้นไปที่นิ้วกลางและนิ้วชี้ อันหมายถึงพลังอำนาจการปกครองและ วาสนาบารมี แต่หากจะสวมแหวนที่นิ้วหัวแม่มือก็ขอให้ดูตัวเองก่อน เพราะการสวมที่หัวแม่มือนั้น ต้องเป็นผู้มีเงินทองแบบหลงจู๊อยู่แล้ว ไม่เช่นนั้นจะเกินวาสนาตน ส่วนผู้หญิงก็ให้สวมมือซ้ายนิ้วนางหรือนิ้วกลาง ก็จะเสริมพลังของตัวเองให้เกิดความเจริญรุ่งเรือง นอกจากนี้ในการสวมแหวนหลายวงในนิ้วเดียวกันนั้น ไม่ควรทำ จะทำให้เกิดความผิดพลาดในเรื่องของความรักได้ง่าย ๆ

ผู้ที่เกิดวันจันทร์
ท่านที่เกิดวันจันทร์ ผู้หญิงให้สวมที่นิ้วมือข้างซ้าย ส่วนผู้ชายให้สวมมือข้างขวา ตัวเรือนควรทำด้วยทองคำ เงิน นาค โลหะผสม หรือหินสีต่างๆก็ได้ แต่ควรเป็นแหวนที่วงค่อนข้างผอม บาง หัวแหวนเล็กๆ จึงจะสอดคล้องกับผู้ที่เกิดในวันจันทร์ ผู้ชายควรสวมแหวนเน้นไปที่นิ้วชี้ นิ้วนาง นิ้วกลางก็จะเสริมดวงและคุ้มครอง ห้ามสวมแหวนนิ้วก้อยและนิ้วหัวแม่มือเด็ดขาด ส่วนผู้หญิงก็ให้สวมที่นิ้วกลาง นิ้วนาง นิ้วก้อย ก็จะเกิดความเจริญรุ่งเรือง สร้างพลังแห่งเมตตามหานิยมแก่เจ้าของ ไม่ควรสวมแหวนที่นิ้วชี้และนิ้วหัวแม่มือ สามารถสวมแหวนซ้อนกันสองวงได้ แต่ถ้าเป็นสามวงซ้อนในนิ้วเดียวกันไม่ควรอย่างยิ่ง จะทำให้เกิดความผิดพลาด ในเรื่องของความรักได้ง่าย ๆ

ผู้ที่เกิดวันอังคาร
ท่านที่เกิดวันอังคาร ผู้หญิงให้สวมที่นิ้วมือข้างซ้าย ส่วนผู้ชายให้สวมนิ้วมือข้างขวา ตัวเรือนทำด้วยอะไรก็ได้ แต่ไม่ควรเป็นของที่แตกหักได้ ตัวแหวนควรค่อนข้างหนาสักหน่อยจึงจะดี หัวแหวนควรใหญ่เช่นกัน ก็จะสามารถเหนี่ยวนำความเจริญรุ่งเรืองได้ ผู้ชายควรสวมไว้ที่นิ้วกลางนิ้วชี้ ก็จะคุ้มครองผู้สวมใส่ ไม่ควรสวมแหวนนิ้วนางหรือนิ้วก้อยจะทำให้ไม่มีพลัง ส่วนผู้หญิงควรสวมแหวนที่นิ้วกลางนิ้วชี้และนิ้วนางเท่านั้น ก็จะส่งพลังคุ้มครองในทุกเรื่อง ไม่ควรสวมแหวนที่นิ้วก้อย จะทำให้เสียพลังที่เข้มแข็ง ที่สำคัญการสวมแหวนซ้อนกันหลายวงในนิ้วเดียวกันสามารถทำได้ ไม่ได้ทำให้เกิดการสูญเสียหรือมีผลใด ๆ ในเรื่องของความรัก

ผู้ที่เกิดวันพุธ
ท่านที่เกิดวันพุธ ผู้หญิงให้สวมที่นิ้วมือข้างซ้าย ส่วนผู้ชายให้สวมที่นิ้วมือข้างขวา ตัวเรือนควรทำด้วยวัสดุธรรมชาติอย่าง ทอง เงินหรือหยก ตัวแหวนควรพอดีกับนิ้ว ไม่ควรหนาหรือบางจนเกินไป หัวแหวนควรทำด้วยรัตนชาติแท้ หรือทำเป็นรูปเหลี่ยมๆ จะสามารถเพิ่มพลังของความเจริญรุ่งเรืองได้ ผู้ชายควรสวมแหวนไว้ที่นิ้วชี้ นิ้วกลางหรือนิ้วนางก็ได้ หรือจะใส่ที่นิ้วหัวแม่มือก็ได้เช่นกัน ส่วนผู้หญิงควรสวมแหวนที่นิ้วชี้ นิ้วกลางหรือนิ้วนาง ก็จะสามารถคุ้มครองได้ในทุกๆ เรื่อง นอกจากนี้ยังสามารถสวมแหวนหลายวง หลายนิ้วพร้อมกันได้ หรือจะซ้อนในนิ้วเดียวกันหลายวงก็ได้ ไม่ได้ทำให้เกิดผลเสียในเรื่องของความรักอย่างแน่นอน

ผู้ที่เกิดวันพฤหัส
ท่านที่เกิดวันพฤหัส ผู้หญิงให้สวมที่นิ้วมือข้างซ้าย ส่วนผู้ชายสวมที่นิ้วมือข้างขวา ตัวเรือนทำด้วยวัสดุธรรมชาติอย่าง ทองคำ เงินหรือทองคำขาว ตัวแหวนควรพอดีกับนิ้ว หรือค่อนข้างใหญ่หน่อยก็ยังดี หัวแหวนควรทำด้วยรัตนชาติแท้ แต่ควรจะมีประกายส่องสว่าง ถึงจะสามารถเพิ่มพลังของความเจริญรุ่งเรืองได้ ผู้ชายควรสวมแหวนที่นิ้วชี้ นิ้วกลางหรือนิ้วนางก็ได้ หรือจะใส่ที่นิ้วหัวแม่มือก็ได้เช่นกัน แต่ไม่ควรสวมแหวนนิ้วก้อย ส่วนผู้หญิงควรสวมแหวนที่นิ้วชี้ นิ้วกลางหรือนิ้วนาง ก็จะสามารถคุ้มครองได้ในทุกๆเรื่อง นอกจากนี้ไม่ควรสวมแหวนพร้อมกันหลายวง จะทำให้เสียพลังในเรื่องของความรัก เปรียบเหมือนการมีรักซ้อนซ่อนรัก

ผู้ที่เกิดวันศุกร์
ท่านที่เกิดวันศุกร์ ผู้หญิงให้สวมที่นิ้วมือข้างซ้าย ส่วนผู้ชายสวมที่นิ้วมือขวา ตัวเรือนควรทำด้วยวัสดุธรรมชาติอย่าง ทองคำ เงินหรือทำจากหิน ตัวแหวนควรมีลักษณะเป็นแฟชั่นหยักๆ หรือเป็นคลื่น หัวแหวนควรมีสีสัน หรือเป็นแหวนหลายหัวก็ได้ จะสามารถเพิ่มพลังของความเจริญรุ่งเรืองได้ ผู้ชายควรสวมแหวนที่นิ้วชี้ นิ้วกลาง นิ้วนาง หรือนิ้วก้อย หรือจะใส่ที่นิ้วหัวแม่มือก็ได้เช่นกัน ส่วนผู้หญิงสามารถสวมแหวนนิ้วไหนก็ได้ในทุกนิ้ว จะสามารถคุ้มครองได้ในทุกๆ เรื่อง แต่การสวมแหวนซ้อนกันมากจนเกินไป จะทำให้เสียพลังในเรื่องของความรัก เปรียบเหมือนการมีรักซ้อนซ่อนรัก หรือจะกลายเป็นคนที่รักอิสระจนเกินกว่าจะควบคุมได้

ผู้ที่เกิดวันเสาร์
ท่านที่เกิดวันเสาร์ ผู้หญิงให้สวมที่นิ้วมือข้างซ้าย ส่วนผู้ชายสวมที่นิ้วมือขวา ตัวเรือนควรทำด้วยวัสดุธรรมชาติอย่าง ทองคำ เงินหรือหิน ตัวแหวนควรมีความพอดีกับนิ้ว หรือค่อนข้างใหญ่หน่อยก็ยังดี หัวแหวนควรทำด้วยรัตนชาติแท้ แต่ควรจะมีสีค่อนข้างเข้ม จะสามารถเพิ่มพลังของความเจริญรุ่งเรืองได้ ผู้ชายควรสวมแหวนที่นิ้วชี้ นิ้วกลาง หรือจะใส่ที่นิ้วหัวแม่มือก็ได้เช่นกัน แต่ไม่ควรสวมแหวนที่นิ้วก้อยหรือนิ้วนาง จะเสียพลังในการคุ้มครอง ส่วนผู้หญิง ควรสวมแหวนที่นิ้วชี้ นิ้วกลางหรือนิ้วนางก็จะสามารถคุ้มครองได้ในทุกๆเรื่อง นอกจากนี้ไม่ควรสวมแหวนพร้อมกันหลายวง จะทำให้เสียพลังในเรื่องของความรัก เปรียบเหมือนการมีรักซ้อนซ่อนรัก

วันอังคารที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2552

นศ.มะกันประมูลพรหมจรรย์ผ่านเน็ตยอดพุ่ง5ล้านดอลลาร์

"เดลี เทเลกราฟ"รายงานเมื่อวันที่ 13 ม.ค.ว่า ผู้คนทั่วโลกต่างประมูลหวังซื้อพรหมจรรย์ของน.ส.นาตาลี ไดแลน ซึ่งผู้ชนะประมูลสุดจะได้ร่วมหลับนอนกับเธอเป็นเวลา 1 คืน ขณะที่ยอดประมูลทางอินเตอร์เน็ตขณะนี้พุ่งขึ้นเป็น 1 หมื่นคนแล้ว โดยนักธุรกิจออสเตรเลียเป็นเสนอประมูลสูงสุดด้วยวงเงิน 5 ล้านดอลลาร์

ก่อนหน้านี้ นาตาลี ซึ่งเป็นนักศึกษาเมืองซาน ดิเอโก้ สหรัฐ ดีกรีปริญญาตรีสาขาการศึกษาด้านผู้หญิง ได้ประกาศขายพรหมจรรย์ของเธอในรายการดังของดีเจหลุดโลก"โฮเวิร์ด สเติร์น"และจากนั้นประวัติของเธอในมายสเปซก็ถูกติดตามด้วยความสนใจ โดยนาตาลีบอกว่า เธอยังคงบริสุทธิ์ และต้องการจะประมูลพรหมจรรย์ เพื่อนำเป็นทุนศึกษาต่อเรียนปริญญาโทในหลักสูตรบำบัดการแต่งงานและครอบครัว

ด้านน.ส.นาตาลี บอกว่า เธอรู้สึกตะลึงกับตัวเลขที่พุ่งกระฉูดไปไกลขนาดนี้ และว่าเป็นเรื่องน่าประหลาดใจที่บรรดาพวกผู้ชายจะยอมจ่ายเงินเพื่อพรหมจรรย์ของผู้หญิง แม้จะไม่ใช่ราคาที่สูงขนาดนี้ก็ตาม

ที่มา - มติชน

วันพฤหัสบดีที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2552

ผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.โหมหาเสียงผ่านสื่อ(เน็ต-google)

วันที่ 11 มกราคมนี้แล้วจะมีการเลือกตั้งซ่อมทั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และ ส.ส.26 เขตทั่วประเทศแทนผู้ที่ถูกตัดสิทธิ์เพราะการยุบพรรคการเมือง ขณะนี้ผู้สมัครต่างก็งัดกลวิธีในการหาเสียงให้เข้าถึงผู้ใช้สิทธิ์มากที่สุด

ช่วงนี้จะเห็นว่าจะเป็นสปอร์ทโฆษณาหาเสียงของผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครผ่านทางทีวีและวิทยุ รวมถึงสื่อต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสื่ออินเตอร์เน็ต จะมีแบนด์เนอร์ของผู้สมัครทีมีรูปภาพหน้าตามและสโลแกนด์หาเสียงที่เกี่ยวกับนโยบายในการพัฒนาพื้นที่กรุงเทพมหานคร

พร้อมกันนี้ผู้สมัครยังมีการเปิดเว็บไซต์เป็นของตัวเอง แต่บรรดาเว็บไซต์ของผู้สมัครผู้ว่ากรุงเทพมหานครนั้น ก็มีวิธีการโปรโมทเว็บไซต์แตกต่างกันไป บางคนก็เปิดแล้วก็ทิ้ไว้เฉยๆๆปล่อยให้ร้าง

แต่ที่เวิร์คและเชื่อว่าจะสะดุดตาของผู้ท่องเว็บไซต็มากที่สุดตอนนี้เห็นจะเป็นอาจารย์แก้วสรร อติโพธิ ผู้สมัครผู้ว่ากรุงเทพมหานครหมายเลข 12 เพราะจะได้เห็นข้อความว่า "เบอร์ 12 แก้วสรร อติโพธิ ผู้ว่าเลือกตั้งผู้ว่ากทม.ซื่อสัตย์ กัดติด ฟิตงาน บริหารเป็น www.kaewsun.com" และช่วงท้ายของข้อความนี้จะระบุว่าโฆษณา google ตามเว็บไซต์ต่างๆๆและมีอยู่หลายๆจุดด้วยกันของเว็บไซต์

หลายคนก็เข้าใจแล้วแต่มีบ้างคนยังไม่เข้าใจ ซึ่งก็เป็นการลงโฆษณาหาเสียงผ่านทาง google ซึ่งก็จะมีการเสียค่าโฆษณาให้ google เป็นไปตามจำนวนของคนเห็นแล้วก็มีการคลิกเข้าไปอ่านที่เว็บไซต์ www.kaewsun.com อาจารย์แก้วสรรก็จะต้องจ่ายค่าโฆษณาให้ google เท่ากับจำนวนที่มีการคลิก หรือคนที่เข้าไปตั้งโฆษณานี้ใน google โดยที่อาจารย์แก้วสรรไม่ทราบเลยก็ได้ เพราะนี้เป็นวิธีการหารายได้ประการหนึ่งทาง google ส่วนจะคลิกละเท่าไรนั้นก็ขึ้นอยู่กับคนที่เข้าไปตั้งราคา ซึ่งก็ยังไม่มากประมาณคลิกละบาทสองบาท

ประกอบกับ google เพิ่งเปิดโอกาสให้เว็บไซต็ภาษาไทยนำโค๊ตโฆษณา google มาแปะเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ซึ่งก็จะเป็นสร้างรายได้ให้กับเว็บไซต์ต่างๆอีกทางหนึ่ง ซึ่งไม่จำเป็นจะตองจ้างพนักงานหาโฆษณา เพียงแค่สมัครเอาโค๊ตมาแปะเมื่อมีคนคลิกเข้าไปหาข้อมูลในโฆษณา google ก็ทำให้เว็บไซต์นั้นมีรายได้แล้ว จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับจำนวนคลิก หากไม่มีการคลิกเลยเว็บไซต์นั้นก็จะไม่มีรายได้เข้ามา

ก็ถือได้ว่า เป็นการใช้สื่ออินเตอร์เน็ตเข้ามาส่วนช่วยให้การหาเสียงเข้าถึงผู้มีสิทธิ์ได้อีกทางหนึ่ง ส่วนจะได้ผลเท่าทางสีม่วงสีเทาหรือไม่นั้นก็ต้องขึ้นอยู่กับการเวลาและการศึกษาของพลเมือง และเป็นสิ่งที่ดีที่รัฐบาลมีนโยบายให้มีการเรียนฟรี เพราะอย่างน้อยๆจะทำให้พลเมืองไม่โง่ถูกหลอกโดยไม่รู้ตัวอีกต่อไป ในที่นักการเมืองที่ฉลาดแกมโกงชาติก็จะหมดไปเองแล...อิอิ


mhanation.net

รายงาน

วันพุธที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2552

ผู้เอ๋ยผู้ใหญ่ดีต้องมีหน้าที่ 10 อย่างด้วยกัน...ท่องให้เด็กเห็นกันหน่อยเนื่องในวันเด็ก

เมื่อตอนเป็นเด็กเรียนหนังสือคุณครูให้ท่องประจำตอนเข้าเรียนและจะเลิกเรียน
เด็กเอ๋ยเด็นน้อย ความรู้เรายังด่อยเร่งศึกษา
เมื่อเติบใหญ่เราจะได้มีวิชา เป็นเครื่องหาเลี้ยงชีพสำหรับตน
ได้ประโยชน์หลายสถานเพราะการเรียน จงพากเพียรไปเถิดจะเกิดผล
ถึงลำบากตรากตรำก็จำทน เกิดเป็นคนควรหมั่นขยันเอย
...(ไม่แบมือขอเขากิน)

และเด็กเอ๋ยเด็กดีต้องมีหน้าที่ 10 อย่างด้วยกัน
1.นับถือศาสนา
2. รักษาธรรมเนียมมั่น
3. เชื่อพ่อแม่ครูอาจารย์
4. วาจานั้นต้องสุภาพอ่อนหวาน
5. ยึดมั่นกตัญญู
6. เป็นผู้รู้รักการงาน
7. ต้องศึกษาให้เชี่ยวาญ ต้องมานะบากบั่น ไม่เกียจ ไม่ค้าน
8. รู้จักออมประหยัด
9. ต้องซื่อสัตย์ตลอดกาล
น้ำใจนักกีฬากล้าหาญ ให้เหมาะกับกาลสมัยชาติพัฒนา
10. ทำตนให้เป็นประโยชน์ รู้บาปบุญคุณโทษ สมบัติชาติต้องรักษา
เด็กสมัยชาติพัฒนาต้องเป็นเด็กที่พาชาติไทย เจริญ


ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเราบังคับให้เด็กท่องอย่างเดียวหรือไม่จึงมีเด็กซิ่งเด็กแว้นเต็มเมืองโดยไม่ได้อธิบายให้เด็กได้ทราบในสิ่งที่ท่องนั้น
ขณะเดียวกันเราคิดกันแต่เพียงให้เด็กท่องเท่านั้นหรือแล้วผู้ใหญ่หละจะไม่ท่องกันบ้างหรือ ท่องในที่นี้ก็คงหมายถึงการทำให้เป็นตัวอย่างกับเด็ก ในเมื่อผู้ใหญ่ไม่เป็นตัวอย่างที่ดีแล้วเด็กจะหาแบบอย่างจากที่ไหน

1. นับถือศาสนา (เราสักว่าแต่นับถือตามทะเบียบบ้านหรือไม่)
2. รักษาธรรมเนียมมั่น (เอาเพียงยี้สยามก็น่าจะเพียงพอแล้วในยุคนี้)
3. เชื่อพ่อแม่ครูอาจารย์ (เป็นตัวอย่างที่ดีไม่มีพฤติกรรมอึบเด็กลูกศิษย์
4. วาจานั้นต้องสุภาพอ่อนหวาน (มีบ้างมะโดยเฉพาะการปราศรัยในม็อบและการหาเสียง
5. ยึดมั่นกตัญญู (อันนี้ก็มีการกล่าวหากันอยู่)
6. เป็นผู้รู้รักการงาน (อันนี้ก็คงเป็นคนขยันแล้วจะไม่ตกงานแบมือขอประชานิยมกิน)
7. ต้องศึกษาให้เชี่ยวาญ ต้องมานะบากบั่น ไม่เกียจ ไม่ค้าน (ต้องเรียนตลอดชีวิต)
8. รู้จักออมประหยัด (มีรายได้แล้วแบ่งเป็นสี่ส่วน)
9. ต้องซื่อสัตย์ตลอดกาล (สัจจวาจามีกันบ้างมะ)
น้ำใจนักกีฬากล้าหาญ (อันนี้ก็หายากวงการเมือง ไม่รู้จักแพ้และอภัย) ให้เหมาะกับกาลสมัยชาติพัฒนา
10. ทำตนให้เป็นประโยชน์ รู้บาปบุญคุณโทษ สมบัติชาติต้องรักษา (ทุกวันนี้มีข่าวโกงชาติเอาชาติไปขาย ทำลายสมบัติชาติโดยเฉพาะคอรัปชั่นกันทุกวัน)
เด็กสมัยชาติพัฒนาต้องเป็นเด็กที่พาชาติไทย เจริญ (ผู้ใหญ่ที่เป็นตัวอย่างที่ดีอยู่แล้วก็ต้องขออนุโมทนาบุญด้วย


mhanation.net

รายงาน

สถาบันเหล็กฯระดมสมองผ่าวิกฤตินำเข้าเหล็ก 5 แสนล้าน

นายวิกรม วัชระคุปต์ ผู้อำนวยการสถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทยเปิดเผยว่า ในวันที่21 มกราคมนี้จะมีการสัมมนาหัวข้อเหล็กไทยสร้างไทยก้าวแรกฝ่าวิกฤติ 5 แสนล้าน ที่ศูนยประชุมแห่งชาติสิริกิติ์โดยนายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมร่วมเป็นประธานสัมมนาและมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาทิ

นายดำริ สุโขธนังปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นายวัลลภ เตียศิริ ผู้อำนวยการสถาบันยานยนต์และนายวิน วิริยะประไพกิจ กรรมการเครือสหวิริยาร่วมระดมความคิดเห็นนายสุพจน์ ส่งเสียง แกนนำกลุ่มอนุรักษ์แม่รำพึง ซึ่งคัดค้านโครงการโรงถลุงเหล็ก อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์กล่าวว่า ขณะนี้ 6 แกนนำพันธมิตรด้านสิ่งแวดล้อมจ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้เตรียมความพร้อมในการแสดงความเห็น ในเวทีสัมมนาดังกล่าวด้วย

ขณะที่ความคืบหน้ากรณี 6 แกนนำพันธมิตรด้านสิ่งแวดล้อมจะเคลื่อนไหวในช่วงการประชุมอาเซียนซัมมิทที่ อ.หัวหิน เพื่อให้ตัวแทนอาเซียนและสื่อมวลชนนานาชาติเห็นความล้มเหลวของภาครัฐในการพัฒนาอุตสาหกรรมซึ่งก่อผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมนั้น มีรายงานข่าวแจ้งว่า กระทรวงระทรวงมหาดไทยได้มีคำสั่งไปยังผวจ.และนายอำเภอในพื้นที่ให้จัดเตรียมแผนเพื่อป้องกันเหตุร้ายและชี้แจงทำความเข้าใจกับกลุ่มมวลชนต่างๆ เพื่อขอให้ระงับการชุมนุมประท้วงในพื้นที่ อ.หัวหินในช่วงระหว่างการประชุมอาเซียนซัมมิท

นายสุวรรณ ทองกลอย ที่ปรึกษาคณะกรรมการหมู่ 8 ต.แม่รำพึง อ.บางสะพาน กล่าวว่า อยากให้คนกลางและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาไกล่เกลี่ยสร้างความเข้าใจกับชาวบ้านกลุ่มคัดค้าน เพราะไม่ต้องการให้เป็นเงื่อนไขซ้ำเติมความบอบช้ำของประเทศ

วันอังคารที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2552

"เหลิม"อยากเป็นนายกฯต้องเป็นผู้นำฝ่ายค้านที่ดีเสียก่อน

วันที่ 6 มกราคม สารวัตรเฉลิม อยู่บำรุง ได้ควงหนุ่ม "โอ๊ค"พานทองแท้ บุตรชายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไปช่วยผู้สมัครเลือกตั้งซ่อม ส.ส.อุดรธานี ที่ศูนย์โอท็อป ริมถนนอุดร-สกล อ.หนองหาน จ.อุดรธานี แบบไม่แสดงตัว
สารวัตรเฉลิม ได้ปราศรัยตามสไตล์โจมตีรัฐบาล"มาร์ค"อภิสิทธ์ ลักษณะแผ่นเสียงตกร่องลอกนโยบาย"แม้ว"ทักษิณ เป็นรัฐบาลที่ตั้งขึ้นมาอย่างไม่ถูกต้องไม่สวยงาม (แล้วรัฐบาลทาแป้งหว่า) พร้อมกับลั่นพร้อมจะเป็นนายกรัฐมนตรี
"ก่อนหน้านี้ผมไม่เคยนึกอยากที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีแต่อย่างใด แต่มาถึงเวลานี้ผมขอเป็นนายกรัฐมนตรี และก็จะให้ดำเนินการให้คดีทุกที่เกิดขึ้นหลังการปฏิวัติ ก็จะขอให้มีการนิรโทษกรรมทุกคดี รวมทั้งคดีที่ยังไม่ได้มีการตัดสินอีกด้วย และจะดำเนินการนำเอาตัวของ พ.ต.ท. ทักษิณ กลับประเทศไทย ซึ่งหลังจากนั้นเมื่อมีการเลือกตั้งครั้งใหม่ ก็จะส่งมอบตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ อีกครั้งหนึ่ง”
ทำให้รู้ว่าตำแหน่งนายกรัฐมนตรีนี้ใครๆก็อยากเป็นนะ ตรงกันข้ามกับตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร์ดูเหมือนจะไม่มีใครอยากเป็น เพราะตอนนี้ฝ่ายค้านที่มีพรรคเพื่อไทย (หรือเพื่อใครหว่า) ก็ยังหาตัวไม่ได้ มีคนเสนอให้สารวัตรเฉลิมเป็นเจ้าตัวก็ปฏิเสธอพัลวัน
ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าผู้นำฝ่ายค้านนี้ไม่ดีตรงไหนหรือว่าตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านเป็นแล้วจะไม่มีคนโจมตีว่า "โกงชาติ ซุกหุ้นโดยสุจริต ขายหุ้นไม่เสียภาษีแม้นแต่บาทเดียว ก็ยังไม่คนยกย่องว่าดีหรือว่ายกย่องเพราะเงินหว่า"...อิอิ
ก็ขอบอกว่าสารวัตรเฉลิมคิดจะเป็นนายกฯก็ขอให้เป็นผู้นำฝ่ายค้านที่ดีมีน้ำใจนักกีฬา อย่าเลียนแบบพวกข้างถนน เด็กซิ่งป่วนเมือง ทำให้ดูก่อนก็แล้วกันเมื่อเป็นแล้วถึงจะเรียกท่านนายกฯได้เต็มปาก ไม่ใช่เพราะให้เกียรติในตำแหน่งเพราะเป็นนายกฯไทย

ลิ้วล้อทักษิณปากรักชาติประชาธิปไตยพฤติกรรมขวางหาเสียงจัดประชุมอาเซียน

กลุ่มคนที่นิยมชมชอบในคนชื่อทักษิณต่างก็บอกว่ารักชาติและรักยึดมั่นในรัหลักประชาธิปไตย แต่พฤติกรรมที่แสดงออกอย่างเช่นการขัดขวางการทำหน้าที่ของผู้แทนในอาคารรัฐสภา การขัดขวางการหาเสียงเลือกตั้งซ่อมตามพื้นที่ต่างๆ เริ่มตั้งแต่เชียงใหม่ ลำปาง ลำพูน ปทุมธานี และราชบุรี อยู่ขณะนี้ มีการโห่ไล่ขว้างปาสิ่งของเข้าใส่

การหาเสียงเป็นกระบวนการหนึ่งของระบอบประชาธิปไตยใช่หรือไม่แล้วคัดค้านทำไม แบบนี้จะเรียกว่ารักประชาธิปไตยได้อย่างไร หากจะคิดว่าไม่ชอบหรือไม่เห็นด้วยกับบุคคลก็ควรที่จะแสดงออกด้วยวิธีการอื่นที่วิญญูชนหรือารยะประเทศเขาทำกัน

ขณะเดียวกันกลุ่มคนที่นิยมชมชอบในคนชื่อทักษิณต่างก็บอกว่า "รักชาติ" แต่พฤติกรรมการประกาศที่จะขัดขว้างรัฐบาลเป็นเจ้าภาพจัดประชุมผู้นำอาเซียน โดยอ้างว่ารัฐบาลเข้ามาด้วยความไม่ชอบธรรม แต่ก็ไม่ได้อธิบายให้ชัดว่าไม่ชอบธรรมอย่างไร หากจะบอกว่าไม่ชอบธรรมโดยไม่มีเหตุผลแล้วจะกล่าวหารัฐบาลชุดที่ผ่านมาไม่ชอบธรรมบ้างก็ได้ใช่หรือไม่

ดังนั้นต้องอธิบายให้ชัดหลักธรรมข้อไหน ศีลข้อใด จะพูดเพียงว่าไม่ชอบธรรมชาวต่างชาติเขาไม่ฟังหรอก แล้วทำไมไม่แก่ต่างชาวต่างชาติที่เขาประณามรัฐบาลชุดที่แล้วบ้างว่ามีการคอรัปชั่น เพราะสำนักข่าวต่างประเทศที่เขาพูดถึงรัฐบาลภายใต้การนำหรือบงการของคนชื่อทักษิณแล้วเขาจะมองว่ามีกาาคอรัปชั่นเสมอๆๆ

การเป็นเจ้าภาพจัดประชุมผู้นำอาเซียนเป็นผลประโยชน์ของชาติ คนในชาตินี้ต้องให้การสนับสนุนใช่หรือไม่ หากมีการแสดงความคัดค้านแล้วจะเรียกว่ารักชาติได้อย่างไร ยิ่งจะมีการลอบบี้ประเทศที่เป็นสมาชิกด้วยแล้ว จะไม่ใช่เป็นการประจานตัวเองหรือ แล้วไม่อายเขาหรืออย่างไร ประเทศอื่นเขาคงนั่งหัวเราะโดยเฉพาะเขมรที่มีข้อพิพาษกับไทยอยู่ การทำเช่นนี้จะไม่เรียกว่าไส้สึกแล้วจะเรียกว่าอะไร สาเหตุที่ไทยเสียกรุงก็เพราะมีคนเป็นไส้ศึกไม่ใช่หรือ คนพวกนี้ไม่เรียกว่า"หนักแผ่นดิน"ก็ไม่รู้ว่าจะเรียกอะไรแล้ว

ได้เขียนมาเสมอว่านักการเมืองและคนไทยไม่มีการขีดวงในการแสดงออกระหว่างผลประโยชน์ของชาติและประโยชน์ส่วนตน มักจะมีการเหมารวมกันไปหมด เมื่อไรเราจะมีการแบ่งแยกของปัญหาในวงการสนทนาในพฤติกรรมการกระทำ แบบนี้ประเทศจะเจริญได้อย่างไร โดยเฉพาะความเจริญทางความคิด ก็เพราะโง่อยู่จึงถูกคนที่ต้องการผลประโยชน์จูงจมูกโดยเอาประชานิยมล่อ

วันอาทิตย์ที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2552

จุดแข็ง-จุดอ่อน ๑๒ ราศี

--------------------------------------------------------------------------------

ราศีมังกร (22 ธันวาคม – 19 มกราคม)

จุดแข็ง
1.อ่านคนเก่ง มีลางสังหรณ์แม่นยำ
2.วางตัวดี ยากที่ใครอ่านออก
3.มีอารมณ์ขัน มีวาทศิลป์
4..มีความนอบน้อมถ่อมเคารพผู้อาวุโส
5.มีความซื่อตรงและยุติธรรม
6.รอบคอบ ละเอียดอ่อน
7.ใจบุญสุนทาน มีความรอบรู้ รักพ่อแม่พี่น้องมาก
8.เข้มแข็งแกร่งกล้า แม้จะเป็นคนอ่อนไหวง่าย

จุดอ่อน
1.เจ็บปวดง่าย ยากจะลืมเลือนหรือให้อภัยคนที่ทำร้ายตน
2.ชอบผูกมิตรกับคนแต่ไม่ชอบคบใครจริงจัง
3.ชอบแสดงความสดใสร่าเริง ทั้งที่ในใจรู้สึกโดดเดี่ยว
4.ทนไม่ได้กับการวิพากษ์วิจารณ์หรือการดูถูก
5.ยึดมั่นในหน้าที่ จนไม่มีเวลาใช้ชีวิตแบบที่ปารถนา
6.ใช้จ่ายเงินเก่ง
7.เชื่อว่าตนเองถูกเสมอ



ราศีกุมภ์ (20 มกราคม – 18 กุมภาพันธ์)

จุดแข็ง
1.มีความเป็นเพื่อนให้ทุกคนอย่างไม่เลือก
2.ตั้งเป้าหมายอย่างชัดเจน มีจุดยืนที่มั่นคง
3.ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ไม่เคยดับมอด
4..เด็ดเดี่ยว ไม่ท้อแท้
5.กล้าได้กล้าเสีย แก้ปัญหาเก่ง ไม่ตื่นตกใจง่าย
6.รู้จักกาลเทศะ
7.สร้างจุดสนใจได้ดีเสมอ สร้างความประทับใจให้กับทุกคน
8.สุขุมเยือกเย็น ไม่เคยทำอะไรสะเพร่า

จุดอ่อน
1.ต่อต้านกฎเกณฑ์อย่างจริงจัง จนบางครั้งก้าวร้าว
2.ไม่ลงให้ใครง่ายๆ
3.ไม่แสดงความคิดเห็นของตน แต่เก็บเกี่ยวความคิดของผู้อื่น
4.ชอบเสี่ยง ทั้งที่ไม่มีความมั่นใจเลย
5.ไม่ทนกับคนที่ตนคิดว่าไรสาระ
6.ไม่ชอบแสดงออกทางอารมณ์ แม้แต่จะทำสิ่งที่ดีๆให้กับคนที่ตนรัก
7.คาดหวังสูงกับความเป็นคนมีเสน่ห์และเป็นที่ยอมรับของคนรอบข้าง
8.ชอบคิด ชอบวางแผน แต่ไม่ชอบลงมือทำ


ราศีมีน (19 กุมภาพันธ์ – 20 มีนาคม)

จุดแข็ง
1.สามารถดึงเอาความเพ้อฝันมาใช้สร้างสรรค์ได้
2.ปรับตัวได้ดี รู้จักรอมชอม แม้จะฝืนใจตนเองบ้าง
3.วางตัวดี รู้จักพูดจา เป็นผู้ฟังที่ดี
4.ยินดีให้ความร่วมมือกับผู้อื่นแม้จะไม่เห็นชอบด้วยก็ตาม
5..ไม่เรียกร้องความโดดเด่น ไม่ยึดติดว่าตนต้องเป็นผู้นำ
6.มีความอดทน มีศักยภาพที่ไขว้คว้าความสำเร็จ
7.ฉลาดและรู้จักใช้โอกาส

จุดอ่อน
1.อารมณ์เปราะบาง
2.สับสนและเครียดได้สูงเพียงเพราะอารมณ์อ่อนไหวของตน
3.ไม่กล้าทำในสิ่งที่ลึกๆปรารถนา
4.ชอบหลอกตัวเองไม่ยอมรับความจริง
5.พอใจที่จะอยู่ในโลกแห่งจินตนาการมากกว่าโลกแห่งความจริง
6.ชอบหนีปัญหาของตนเอง ทั้งที่สามารถให้คำแนะนำในการแก้ปัญหาของผู้อื่นได้
7.ไม่ชอบงานหนักหรือภาวะที่บังคับให้ต้องรับผิดชอบสูง
8.ขาดมุ่งมั่นเอาจริงเอาจังกับชีวิต


ราศีเมษ (21 มีนาคม – 19 เมษายน)

จุดแข็ง
1.มีกำลังใจเข้มแข็ง ไม่ท้อถอยง่ายๆ
2.มีน้ำใจไมตรีต่อคนรอบข้าง
3.รู้จักสร้างความสดชื่นรื่นรมย์อยู่เสมอ
4.เป็นผู้นำที่ดี มีความยุติธรรมและซื่อตรงสูง
5.มีความคิดริเริ่มรักอิสระ
6.วางจุดหมายของตัวเองไว้ทุกระยะ
7.สนใจใฝ่รู้ มุ่งไปที่ความสำเร็จมากกว่าเงิน
8.กล้าสู้ปัญหา ยอมรับความกดดันได้ดี

จุดอ่อน
1.เชื่อแต่ความคิดและมุมมองของตนเอง
2.หลงตนเองต้องการเป็นหนึ่งเสมอ
3.อยากควบคุมความคิดคนอื่น เผด็จการพอตัว
4.บางครั้งก้าวร้าวและไม่ใคร่ตรองให้ลึกซึ้ง
5.อ่านคนไม่เก่ง แต่ชอบแข่งขันและชอบเอาชนะ
6.กลังคนไม่ยอมรับ
7.เก็บเงินไม่เก่ง
8.ไม่ค่อยอดทนไม่ชอบอยู่กับความซ้ำซากเป็นเวลานาน


ราศีพฤษภ (20 เมษายน – 20 พฤษภาคม)

จุดแข็ง
1.มีความบากบั่นสูง ยากที่จะยอมแพ้หรือเปลี่ยนแปลงจุดยืนของตนเอง
2.เป็นคนมีจิตใจดี ให้เกียรติให้ความสำคัญแก่คนอื่นเสมอ
3.เป็นคนจริงใจ รักมั่นคง รักครอบครัวรักเพื่อน อย่างแท้จริง
4.สามารถเก็บความรู้สึกเกรี้ยวกราดไว้ได้ ยากที่จะแสดงออกว่าไม่พอใจใคร
5.สามารถจัดการชีวิตให้มีระเบียบวินัยอย่างพอเหมาะ
6.เป็นคนมีเหตุผล พูดจริง ทำจริง และไม่ไข่คว้าในสิ่งที่เกินตัว
7.มักไตร่ตรองให้รอบครอบอยู่เสมอ
8.เป็นคนสุภาพนอบน้อม ไม่ใจร้อนวู่วาม

จุดอ่อน
1.คิดและทำอะไรช้า
2.อยากทำตามความคิดตนมากกว่าจะเปลี่ยนแปลงเพราะฟังคนอื่น
3.โกธรได้ง่าย แต่หายยาก
4.ยอมทุ่มเทเงินทองให้กับสิ่งที่ชอบ
5.เจ้าระเบียบ ไม่ชอบให้ใครยุ่งกับคนของตน
6.ไม่ชอบที่จะให้เพื่อนพ้อง พี่น้องชื่นชมใครไปกว่าตน


ราศีเมถุน (21 พฤษภาคม – 20 มิถุนายน)

จุดแข็ง
1.มีความสดใสร่าเริง และมีอารมณ์ขันเสมอ
2.ช่างคิด ช่างสังเกต
3.ฉลาดคิดเร็วตัดสินใจเร็ว และไม่ชอบหยุดนิ่ง
4.ไหวพริบดี สามารถแก้ปัญหาได้ด้วยตนเอง
5.มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์มีความสามารถในการวางแผน
6.รักการเรียนรู้ สนุกที่จะหาประสบการณ์ ไม่กลัวการเปลี่ยนแปลง
7.สามารถให้ความช่วยเหลือ คำปรึกษา คำแนะนำแก่คนรอบข้างได้
8..เก็บความรู้สึกดี มักไม่แสดงความรู้สึกโกธรออกมา

จุดอ่อน
1.ขาดความมุ่งมั่นและไม่อดทนไม่มีความหนักแน่น
2.ไม่ค่อยเข้าใจความรู้สึกที่แท้จริงของตน
3.เป็นคนเบื่อง่าย ขาดความจริงจังทั้งที่เป็นคนมีความทะยาน
4.แม้จะเป็นคนคิดการณ์ไกล แต่ไม่ชอบที่จะทำ มักวางมือเสียง่ายๆ
5.กล้าคิด กล้าทำแต่จริงๆแล้วขาดความรอบครอบ
6.ไม่ตรงต่อเวลานัก ไม่ต้องการความรับผิดชอบสูง
7.ขาดพลังในการควบคุมตน


ราศีกรกฎ (21 มิถุนายน – 22 กรกฎาคม)

จุดแข็ง
1.เป็นคนมีจิตใจดี ไม่เคยคิดเบียดเบียนทำร้ายใคร
2.สนใจเรื่องแสวงหาความมั่นคงในชีวิตความสำเร็จและความก้าวหน้ามากกว่าปล่อยชีวิตไปเรื่อยๆ
3.รักบ้าน รักครอบครัว รักเพื่อน
4.มีความจำดี มีความรับผิดชอบสูง
5.ขยันขันแข็ง ไม่เหลวไหล
6.ยอมรับระบบระเบียบและกฎเกณฑ์ที่ถูกต้อง
7.ยืดหยัดตามลำพังได้ด้วยตัวของตัวเองหากต้องเผชิญกับปัญหา
8.มีความละเมียดละไม ใฝ่หาความสุนทรีในชีวิต

จุดอ่อน
1.อ่อนไหวเกินไป เจ็บปวดง่าย เจ้าอารมณ์
2.ขาดเหตุผลเข้มงวดกับคนใกล้ตัวเกินไป
3.ช่างหวาดระแวงและวิตกกังวลเกินควร
4.บางครั้งก้าวร้าวเพราะยึดมั่นในความคิดของตนเกินไป
5.ควบคุมอารมณ์ไม่ได้ทั้งที่ไม่คิดจะทำร้ายใครเลย
6.ไม่มีความกล้าได้กล้าเสี่ยงเท่าใด
7.มักมองโลกในแง่ร้ายและตัดสินใจเรื่องราวในแง่ลบเสมอ


ราศีสิงห์ (23 กรกฎาคม – 22 สิงหาคม)

จุดแข็ง
1.เป็นคนใจกว้างและมีน้ำใจ
2.ไม่ดึงตัวเองลงไปในความเครียด รู้จักสร้างความรื่นรมย์ให้ตนเองและคนรอบข้าง
3.เป็นคนที่มีระเบียบในการใช้ชีวิต
4.มีความทะเยอทะยานมีเป้าหมายในชีวิตที่ชัดเจน
5.มีความมั่นอกมั่นใจและเป็นตัวเองสูง
6.มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ กล้าพูดกล้าทำ กล้าเสี่ยง
7.ไม่หวาดกลัวต่อการเปลี่ยนแปลง
8.ไม่ยอมล้มเหลวหรือพ่ายแพ้

จุดอ่อน
1.บางครั้งทระนงจนไม่ยอมขอโทษ ทั้งที่ตัวเองเป็นฝ่ายผิด
2.ชอบให้ทุกคนยกย่อง เอาอกเอาใจ ต้องการการยอมรับมากไป
3.ให้ความสำคัญกับการเที่ยวเตร่มากกว่าการมุ่งมั่นเอาจริงเอาจัง
4.การเลือกคบคมมากเกินไปจนดูเหมือนดูถูกคนที่ต้อยต่ำกว่า
5.ชอบโอ้อวดและหน้าใหญ่ในบางครั้ง
6.วู่วามใจร้อนไร้เหตุผล
7.มักเห็นแก่ความต้องการของตนเป็นใหญ่เสมอ
8.กล้าคิดกล้าตัดสินใจแต่ขาดความรอบครอบ


ราศีกันย์ (23 สิงหาคม – 22 กันยายน)

จุดแข็ง
1.ซื่อสัตย์ภัคดี มีความตั้งใจจริงไม่เอาเปรียบใคร
2.มีความรับผิดชอบสูง ความตั้งใจสูง
3.ยินดีช่วยเหลือผู้อื่น รู้จักออมเงิน
4..เก่งกาจในการติดต่อสื่อสาร การคิด การวิเคราะห์และการเก็บรายละเอียด
5.สามารถปรับตัวได้ไม่เบื่อหน่ายมีความอดทนสูง
6.เก่งด้านการจัดการ มีมาตรฐานในชีวิต
7.มีความทะเยอทะยานมีเป้าหมายในชีวิตชัดเจน

จุดอ่อน
1.ไม่เชื่อถือและไม่วางใจใครเหมือนกับที่คนอื่นวางใจตน
2.เข้มงวด เจ้าระเบียบ จุกจิกจู้จี้
3.มีความบากบั่นสูงแต่บางครั้งก็ดันทุรังโดยไร้เหตุผล
4.ด้วยความสามารถในเชิงวิพากษ์วิจารณ์ ทำให้บ่อยครั้งช่างตำหนิติเตียนผู้คน
5.มักมีลับลมคมนัยเก็บความรู้สึกและความคิดที่แท้จริงของตนไว้ไม่แสดงออกมา
6.มักหวังสิ่งตอบแทนไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
7.เป็นคนเอาใจยาก


ราศีตุลย์ (23 กันยายน – 22 ตุลาคม)

จุดแข็ง
1.มีมาตรฐานในการใช้ชีวิตของตนเอง รู้จักวางเป้าหมายและวางแผนอยุ่เสมอ
2.ดูแลชีวิตตนเองให้มีความสุขเสมอ
3.มีวาทศิลป์ มีคารมคมคาย รู้จักการเจรจาต่อรองได้เยี่ยม
4.ไม่ทำตัวขวางโลก
5.มีความเป็นผู้นำ
6.อ่อนโยน แคร์ความรู้สึกของผู้อื่น
7.มนุษย์พันธ์ดีเยี่ยม ค่อนข้างซื่อสัตย์ต่อความรู้สึกตนเอง

จุดอ่อน
1.การตัดสินใจไม่เด็ดขาดเพราะมักเกิดการโลเล ไม่มั่นใจในตนเอง
2.ปรารถนาความเป็นหนึ่งมากจนเกินไป บางครั้งอาจผิดหวังและอิจฉาผู้อื่นได้
3.บางครั้งสุขุมเกินไปจนดูเหมือนเป็นคนเฉื่อยช้า
4.ยึดถือความถูกต้องเป็นใหญ่จนไม่ประนีประนอมให้เกิดความยืดหยุ่นบาง
5.มีความอ่อนไหวน้อยใจมากพอๆกับความยโส


ราศีพิจิก (23 ตุลาคม – 21 พฤษจิกายน)

จุดแข็ง
1.เป็นคนมีระเบียบวินัยและวางมาตรฐานให้กับชีวิตของตนอย่างเคร่งครัด
2.ไม่ชอบให้ใครเข้ามาในโลกส่วนตัวของตนเอง
3.มีความทรงจำเยี่ยม มีสมาธิดี มีความรับผิดชอบ
4.มีน้ำใจไมตรี ยินดีช่วยเหลือผู้อื่น ไม่ชอบการประจบ
5.เป็นคมมีไหวพริบ
6.รู้จักใช้เวลาอย่างเป็นประโยชน์ที่สุด
7.มีจุดยืนและเป้าหมายเด่นชัด

จุดอ่อน
1.ค่อนข้างเข้มงวดกับตนเองและคนอื่นมากไป
2.บางครั้งดูหมิ่นผู้อื่นอยู่ในใจและยากที่จะไว้ใจใคร
3.โมโหร้าย หวาดระแวง ยากที่จะประนีประนอม
4.แม้จะไม่ทำร้ายใครก่อน แต่ก็มักจะตอบโต้ด้วยการใช้เล่ห์เหลี่ยมชั้นเชิงอย่างจริงจัง
5.สามารถที่จะลืมความอ่อนโยนกลายเป็นคนก้าวร้าวได้ถ้าไม่พอใจ


ราศีธนู (22 พฤศจิกายน – 21 ธันวาคม)

จุดแข็ง
1.มีแนวคิดที่ชัดเจน มีหลักปรัชญาในการดูแลชีวิต
2.มีอารมณ์ขันเสมอ ไม่เครียดง่าย
3.ปรับตัวได้ดีมองการณ์ไกล
4.กล้าเผชิญกับสิ่งแปลกใหม่เสมอ
5.เข้าใจและเห็นใจผู้อื่น
6.ตรงไปตรงมาไม่มีเล่ห์เหลี่ยมชั้นเชิง

จุดอ่อน
1.เก่งหลายอย่างแต่ไม่มุ่งมั่นซะอย่าง
2.มักเปรียบเทียบตนกับผู้อื่นจนท้อ
3.ตัดสินใจไม่เด็ดขาด ไม่เก่งเรื่องวางแผน
4.เก็บเงินไม่เก่ง
5.ทนไม่ได้หากถูกมองว่าไม่ชื้อ จะก้าวร้าวถ้าไม่ได้ดั่งใจ
6.บางครั้งใจแคบ ไม่รู้จักกาลเทศะ
7.ไว้ใจคนง่าย ชอบโต้คารม ชอบอวดความคิดตน
8.แม้ปัญญาดีแต่ขาดไหวพริบ

ฝ่ายค้านไทยยุคใหม่เก่งนอกสภาไม่ต่างอะไรกับสุนัขข้างถนน

ฝ่ายค้านภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทยได้กำหนดที่จะเปิดอภิปรายนโยบายรัฐบาลนอกสภาในวันที่ 5 มกราคมนี้แล้ว โดยเป็นการสัมนาอภิปรายนอกสภาของพรรคฝ่ายค้าน วิพากษ์วิจารณ์นโยบายรัฐบาล โดยอ้างว่ารัฐบาลไม่ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภา แต่กลับไปแถลงที่กระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งพรรคฝ่ายค้านไม่ได้ร่วมประชุมด้วย เพราะไม่เห็นด้วยกับวิธีการ ซึ่งเนื้อหาจะเป็นอย่างไรขอให้ติดตามเอาเอง

ขณะที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีก็บอกว่า ไม่ห่วง เพราะจะในหรือนอกสภา ถ้ามีข้อสงสัย ก็สามารถที่จะตั้งข้อสังเกตุ สอบถามได้ เราก็มีหน้าที่ที่จะต้องรับการตรวจสอบ และชี้แจง ถ้ามีเรื่องอะไรที่เห็นไม่ตรงกัน เขาก็มีสิทธิที่จะแสดงออกได้

คงจะจำกันได้ว่าเป็นเพราะอะไรรัฐบาลถึงไม่สามารถที่จะแถลงนโยบายที่อาคารรัฐสภาได้จึงย้ายไปแถลงที่กระทรวงการต่างประเทศ ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ฝ่ายค้านเองก็บอกว่าจะเข้าร่วมแต่เอาเข้าจริงๆก็ไม่ร่วม เมื่อมีเวทีไม่ใช่กลับไปใช่ข้างถนน ก็ไม่ต่างอะไรกับสุนัขข้างถนนในที่สุดก็จนตรอกจะบอกว่าเป็นหมาเฝ้าบ้านได้อย่างไร

เมื่อเป็นนักมวยแต่ไม่ต่อยบนเวทีกลับไปต่อยข้างเวทีแบบนี้เขาไม่เรียกวิถีคนกล้าคงไม่ต่างอะไรกับอันธพาลหรือเด็กซิ่งป่วนเมือง ปากก็บอกว่ารักประชาธิปไตยยืนอยู่บนหลักของประชาธิปไตยคงประชาธิปไตยแต่ปากหรือตีความเข้าข้างตนเอง นี้หรือนักการเมืองที่ดีไร้ซึ่งกฏ กติกาหรือมารยาท มุ่งแต่ชนะกันโดยไม่รู้จักการให้อภัย

วันเสาร์ที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2552

หงส์ชนะเปรสตัน2-0เข้ารอบ4เอฟเอ คัพ

ผลฟุตบอลเอฟเอคัพอังกฤษรอบ 3
Hartlepool U. 2 - 0 Stoke C.

FT Arsenal 3 - 1 Plymouth Argyle

Postp. Birmingham C. ? - ? Wolverhampton W.

FT Cardiff C. 2 - 0 Reading

FT Charlton Athletic 1 - 1 Norwich C.

FT Chelsea 1 - 1 Southend U.

Postp. Cheltenham ? - ? Doncaster R.

FT Coventry C. 2 - 0 Kidderminster

FT Forest Green 3 - 4 Derby County

Postp. Histon ? - ? Swansea C.

FT Hull C. 0 - 0 Newcastle U.

FT Ipswich T. 3 - 0 Chesterfield

FT Kettering 2 - 1 Eastwood Town

FT Leicester C. 0 - 0 Crystal Palace

Postp. Leyton Orient ? - ? Sheffield U.

FT Macclesfield T. 0 - 1 Everton

FT Manchester C. 0 - 3 Nottingham F.

FT Middlesbrough 2 - 1 Barrow

FT Millwall 2 - 2 Crewe Alexandra

FT Portsmouth 0 - 0 Bristol C.

FT Queens Park R. 0 - 0 Burnley

FT Sheffield W. 1 - 2 Fulham

FT Sunderland 2 - 1 Bolton W.

FT Torquay U. 1 - 0 Blackpool

FT Watford 1 - 0 Scunthorpe U.

FT West Bromwich A. 1 - 1 Peterborough U.

FT West Ham U. 3 - 0 Barnsley

FT Preston North End 0 - 2 Liverpool