วันพฤหัสบดีที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2552

ผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.โหมหาเสียงผ่านสื่อ(เน็ต-google)

วันที่ 11 มกราคมนี้แล้วจะมีการเลือกตั้งซ่อมทั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และ ส.ส.26 เขตทั่วประเทศแทนผู้ที่ถูกตัดสิทธิ์เพราะการยุบพรรคการเมือง ขณะนี้ผู้สมัครต่างก็งัดกลวิธีในการหาเสียงให้เข้าถึงผู้ใช้สิทธิ์มากที่สุด

ช่วงนี้จะเห็นว่าจะเป็นสปอร์ทโฆษณาหาเสียงของผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครผ่านทางทีวีและวิทยุ รวมถึงสื่อต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสื่ออินเตอร์เน็ต จะมีแบนด์เนอร์ของผู้สมัครทีมีรูปภาพหน้าตามและสโลแกนด์หาเสียงที่เกี่ยวกับนโยบายในการพัฒนาพื้นที่กรุงเทพมหานคร

พร้อมกันนี้ผู้สมัครยังมีการเปิดเว็บไซต์เป็นของตัวเอง แต่บรรดาเว็บไซต์ของผู้สมัครผู้ว่ากรุงเทพมหานครนั้น ก็มีวิธีการโปรโมทเว็บไซต์แตกต่างกันไป บางคนก็เปิดแล้วก็ทิ้ไว้เฉยๆๆปล่อยให้ร้าง

แต่ที่เวิร์คและเชื่อว่าจะสะดุดตาของผู้ท่องเว็บไซต็มากที่สุดตอนนี้เห็นจะเป็นอาจารย์แก้วสรร อติโพธิ ผู้สมัครผู้ว่ากรุงเทพมหานครหมายเลข 12 เพราะจะได้เห็นข้อความว่า "เบอร์ 12 แก้วสรร อติโพธิ ผู้ว่าเลือกตั้งผู้ว่ากทม.ซื่อสัตย์ กัดติด ฟิตงาน บริหารเป็น www.kaewsun.com" และช่วงท้ายของข้อความนี้จะระบุว่าโฆษณา google ตามเว็บไซต์ต่างๆๆและมีอยู่หลายๆจุดด้วยกันของเว็บไซต์

หลายคนก็เข้าใจแล้วแต่มีบ้างคนยังไม่เข้าใจ ซึ่งก็เป็นการลงโฆษณาหาเสียงผ่านทาง google ซึ่งก็จะมีการเสียค่าโฆษณาให้ google เป็นไปตามจำนวนของคนเห็นแล้วก็มีการคลิกเข้าไปอ่านที่เว็บไซต์ www.kaewsun.com อาจารย์แก้วสรรก็จะต้องจ่ายค่าโฆษณาให้ google เท่ากับจำนวนที่มีการคลิก หรือคนที่เข้าไปตั้งโฆษณานี้ใน google โดยที่อาจารย์แก้วสรรไม่ทราบเลยก็ได้ เพราะนี้เป็นวิธีการหารายได้ประการหนึ่งทาง google ส่วนจะคลิกละเท่าไรนั้นก็ขึ้นอยู่กับคนที่เข้าไปตั้งราคา ซึ่งก็ยังไม่มากประมาณคลิกละบาทสองบาท

ประกอบกับ google เพิ่งเปิดโอกาสให้เว็บไซต็ภาษาไทยนำโค๊ตโฆษณา google มาแปะเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ซึ่งก็จะเป็นสร้างรายได้ให้กับเว็บไซต์ต่างๆอีกทางหนึ่ง ซึ่งไม่จำเป็นจะตองจ้างพนักงานหาโฆษณา เพียงแค่สมัครเอาโค๊ตมาแปะเมื่อมีคนคลิกเข้าไปหาข้อมูลในโฆษณา google ก็ทำให้เว็บไซต์นั้นมีรายได้แล้ว จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับจำนวนคลิก หากไม่มีการคลิกเลยเว็บไซต์นั้นก็จะไม่มีรายได้เข้ามา

ก็ถือได้ว่า เป็นการใช้สื่ออินเตอร์เน็ตเข้ามาส่วนช่วยให้การหาเสียงเข้าถึงผู้มีสิทธิ์ได้อีกทางหนึ่ง ส่วนจะได้ผลเท่าทางสีม่วงสีเทาหรือไม่นั้นก็ต้องขึ้นอยู่กับการเวลาและการศึกษาของพลเมือง และเป็นสิ่งที่ดีที่รัฐบาลมีนโยบายให้มีการเรียนฟรี เพราะอย่างน้อยๆจะทำให้พลเมืองไม่โง่ถูกหลอกโดยไม่รู้ตัวอีกต่อไป ในที่นักการเมืองที่ฉลาดแกมโกงชาติก็จะหมดไปเองแล...อิอิ


mhanation.net

รายงาน

ไม่มีความคิดเห็น: