ดูโผรายชื่อครม.มาร์ค1ตามที่ปรากฏตามสื่อต่างๆแล้วไม่ค่อยติดใจเท่าไรนักที่กลุ่มเนวินที่จะเข้ามาคุมกระทรวงมหาดไทยเพราะเข้าใจว่านี้เป็นวิธีเกลือจิ้มเกลือของพรรคประชาธิปัตย์ และกระทรวงคมนาคมที่มีก้อนเนื้อมหาศาลให้ได้ชิม แต่ที่ติดใจมีอยู่ 2 กระทรวงที่พรรคประชาธิปัตย์ไม่เข้าไปคุมคือ กระทรวงไอซีทีและกระทรวงพาณิชย์
กระทรวงไอซีทีนั้นตามโผระบุผู้ที่จะเข้ามาคุมคือ นายไชยยศ จิรเมธากร จากพรรคเพื่อแผ่นดิน เป็นไปตามโควต้าเดิม ดูตามประวัติเป็นส.ส.อุดรธานี เขตที่ 3 พรรคเพื่อแผ่นดิน จบนิติศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยรามคำแหง เป็นส.ส.ตั้งแต่ปี 25531 เป็นต้นมาเคยเป็น เลขาธิการรัฐมนตรีหลายกระทรวง และล่าสุดมีการแย่งชิงตำแหน่งรัฐมนตรีกับนายประสงค์ โฆษิตานนท์ อดีตรมช.มหาดไทยสมัยที่ผ่านมา
แม้นว่ากระทรวงกระทรวงไอซีทีจะเป็นโควต้าของพรรคเพื่อแผ่นดินเติม แต่ที่ติดใจไม่ใช่เพราะคนที่จะเข้ามาทำหน้าที่นี้เป็นคนไม่มีความรู้ความสามารถ แต่เนื่องจากเห็นว่ากระทรวงนี้เป็นกระทรวงที่สำคัญในยุคปัจจุบันและมีผลประโยชน์มหาศาลเพราะเกี่ยวข้องกับคลื่นความถี่มือถือ อินเตอร์เน็ต
ยิ่งได้อ่านบทความสกู๊ปหน้า1 หนังสือพิมพ์ไทยรัฐฉบับวันที่ 19 ธ.ค.ที่ระบุหัวเรื่องว่า ปีละ7.9หมื่นล้านมือถือปล้นคนไทย (ตามลิงค์-http://www.thairath.co.th/news.php?section=hotnews02&content=115671) และก็มีความเห็นเช่นนี้มาตลอด คิดว่ารัฐบาลยุค คมช.จะเข้ามาจัดการให้เป็นธรรมก็เห็นว่าไม่ได้ดำเนินการอะไร คณะกรรมการจัดสรรคลื่นความถี่วิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ ที่ค้างมาเป็นเวลานานตั้งแต่รัฐธรรมนูญปี 40 คลอดก็ยังไม่การคัดเลือกไม่เสร็จ ซึ่งก็เข้าใจว่าพรรคประชาธิปัตย์เข้าใจในจุดนี้ดีว่าคนที่ร่ำรวยที่กับสัมปทานคลื่นความถี่ที่กำแหงอยู่ปัจจุบันนี้คือใคร จำเป็นอย่างยิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์จะเข้ามาดูแล
ส่วนกระทรวงพาณิชย์นั้นถือได้ว่าเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เมื่อภาคเกษตรอุตสาหกรรมมีผลผลิตออกมาแล้ว กระทรวงพาณิชย์หาตลาดขายต่อไม่ได้ มีคนที่ไม่เก่งพอได้การขายแล้วก็จบเห่เช่นกัน ดูจากรายชื่อคนที่เข้ามาคุมกระทรวงพาณิชย์คือนางพรทิวา นาคาศัย ส.ส.ชัยนาท เลขาธิการพรรคมัชฌิมาธิปไตยเดิม ซึ่งตามหนังสือพิมพ์โฟสต์ทูเดย์ฉบับวันที่ 19 ธ.ค.ระบุว่า"เจ้าของธุรกิจสถาบันเทิงชื่อดังโพไซดอน" ขณะที่หนังสือพิมพ์ข่าวสดวันเดียวกันระบุ "เป็นเจ้าของธุรกิจจัดสรรที่ดินร้อยล้านบาท"
นางพรทิวานั้นเป็นภรรยาของนายอนุชา นาคาศัย อดีตส.ส.ชัยนาท พรรคไทยรักไทย ซึ่งถูกตัดสินทางการเมือง 5 ปี เพราะศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคไทยรักไทย จึงจำเป็นต่อส่งภรรยาคือนางพรทิวาลงเล่นการเมืองแทนโดยย้ายมาสังกัดพรรคมัชฌิมาธิปไตย เนื่องจากอยู่ในกลุ่มของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน
อย่างไรก็ตามเมื่อดูประวัติของนางพรทิวาจบปริญญาศิลปศาสตรบัณฑิต สาขาภูมิศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ศิลปศาสตรบัณฑิต สาขารัฐศาสตร์ การปกครอง มหาวิทยาลัยรามคำแหง และรัฐศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการบริหารจัดการสาธารณะ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ก่อนที่จะมาลงสมัครส.ส.ได้ลงสมัครเลือกตั้งเป็นส.ว.ชัยนาทมาก่อน โดยชนะ พ.อ.อ.เด็ดดวงดอกรัก คุ้มชนะ ที่เคยเป็น ส.ส.ชัยนาท จากพรรคชาติไทยมานาน ในปี 2549 แต่ยังได้เป็นเพราะมีการยึดอำนาจเสียก่อน หลังจากนั้นพรรคไทยรักไทยถูกยุบ เมื่อมีการเลือกตั้งนายอนุชาจึงได้ส่งนางพรทิวาลงสมัครส.ส.แทนและได้รับการเลือกตั้งสมใจ
ดูจากประวัติประสบการณ์การเมืองของนางพรทิวาแล้วจะดูเหมือนว่าจะไม่โดดเด่นเท่าใดนัก จะสะดุดตาอยู่บ้างก็ตอนวันแถลงเปลี่ยนขั้วทางการเมืองเมื่อวันที่ 9 ธ.ค.ที่พรรคร่วมรัฐบาลเดิม 4 พรรคให้การสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ได้มีนางพรทิวารวมอยู่ด้วย ทั้งนี้เป็นเพราะรูปร่างหน้าตาเธอมากกว่า
และท้ายสุดก็มีชื่อของเธอติดโผครม.มาร์ค1นั่งรมว.กระทรวงพาณิชย์ จึงมีการขุยประวัติของเธอจึงได้ทราบดังกล่าว ก็ยังมองไม่ออกว่าเธอจะขายอะไรในฐานะที่คุมกระทรวงพ่อค้าอย่างนี้ ก็ได้แต่ถอนหายใจเท่านั้นแบบปลงๆๆ หากจะบอกว่าเคยขายที่ดินมาก่อนก็พอจะก้อมแก้มไปได้บ้าง ส่วนจะได้รับการยอมรับหรือไม่นั้นก็อยู่ที่ผลของงานกระมั้ง...อิอิ
มหาเนชั่น
http://www.mhanation.net/
รายงาน
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น