วันศุกร์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2551

บริวารภูตแม่น้ำปิงอาละวาดปิดไทยพีบีเอส

แม้นว่าวันฮัลโลวีนจะผ่านไปแล้วแต่ภูตผีปีศาจก็ยังอาละวาดอยู่อีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งภูตแม่น้ำโขง ที่อาละวาดทางช่อง จนชาวบ้านติดงอมแงม

แต่จากการเฝ้าติดตามภูตแม่น้ำโขง เมื่อคืนวันที่ 2 พ.ย. แม้นว่าจะเป็นภูตที่โหดร้ายก็โหดร้ายกับคนชั่ว และกับคนที่เคยเป็นอริต่อกันอย่างเช่นบัวผลัน เพราะเป็นที่รักของท่านปุโรหิตคือหมออัคนีหรือหมอไฟ ที่ตัวเองหลงรักอยู่เช่นกันทั้งๆที่หมอไม่ได้รักตอบ

แต่ภูตแม่น้ำโขงก็ยังมีความดีอยู่ที่คอยรักษาสมบัติในพระธาตุ คอยฆ่าหักคอคนชั่วที่เข้าไปลักสมบัติอย่างเช่นเจ้าวรวงศ์

แม้นภูตแม่น้ำโขงจะโหดร้ายกับชาวบ้านริมโขงก็ยังมีพ่อของบัวผลันที่บวชเป็นพระคอยให้ธรรมะสอนญาติโยมให้ตั้งสติใช้อาวุธคือปัญญาป้องกันตัวไม่ให้ภูตแม่น้ำโขงพาเป็นอสูรนำไปเป็นบริวาร ขณะเดียวกันพ่อของบัวผลันก็ได้ช่วยหมออัคนีให้บำเพ็ญให้วิชาแก่กล้าช่วยชาวบ้านให้พ้นจากอาถรรพ์อีกทาง

พลังแห่งความรักและความอิจฉาของภูตแม่น้ำโขงนั้นร้ายแรงมาก ทำให้พ่อของบัวผลันก็ไม่สามารถช่วยได้เป็นแต่เพียงคอยเตือนสติลูกสาวไม่ให้ตกเป็นภูตหรืออสูรเช่นเดียวกับภูตแม่น้ำโขง เพราะมันเป็นเรื่องของกรรม

อย่างไรก็ตามภูตแม่น้ำโขงนั้นแม้นจะชั่วร้ายก็บ้างกรณีและบ้างคนเท่านั้น แต่สำหรับภูตแม่น้ำปิงแล้วร้ายยิ่งกว่ามากหนัก เพราะได้สูญเลือด (สีแดง) คนไทยเกือบทั้งประเทศจนร่ำรวยเป็นแสนล้านนำเงินไปซื้อสโมสรฟุตบอลเมืองผู้ดีได้ จนตอนนี้คนไทยเหลือแต่กระดูก และสีเลือดก็ได้กระจายไปตามสื่อทีวีนอมินีบ้างแล้ว

ภูตแม่น้ำปิงได้หลอกใช้เงินภาษีของประชาชนไปหว่านให้กับรากหญ้าทั้งเงินกองทุนหมู่บ้าน เอสเอ็มแอล ให้คนไทยหลงว่าเป็นความดีความเมตตาของภูตแม่น้ำปิด ปลูกฝังนิสัยคนไทยเป็นคนคอยแต่แปมือขอ แทนที่จะปลูกฝังให้คนไทยช่วยเหลือตัวเอง รู้จักคำว่าเพียงพอ

เมื่อคนไทยมีเงินแทนที่จะนำเงินนั้นไปลงทุนต่อยอดหารายได้เพิ่ม ก็นำเงินนั้นไปซื้อเครื่องอำนวยความสะดวกโดยเฉพาะมือถือ ต้องจ่ายค่าโทรรายเดือนเป็นพันเป็นหมื่นบาท

บุตรหลานที่เข้ามาเรียนเมืองกรุงสิ่งที่ขาดไม่ได้ก็ถือมือถือ เมื่อเงินที่พ่อแม่ส่งมาให้ใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือย เงินขาดมือในที่สุดก็ต้องขายของกลุ่ม กลายเป็นนางงามตามตู้กระจก นางงามถามฟุตบาท นางงามสนามหลวง นางงามถนนสุขุมวิทที่มากก็ย่านซอยนานา

เมื่อพ่อของบัวผลันใช้ธรรมะเข้าข่มสั่งสอนให้คนไทยอย่าได้ตกเป็นทาสของภูตแม่น้ำปิง ภูตแม่น้ำปิงเป็นเดือดเป็นแค้นมากได้ก็ส่งบริวารสูบเลือดสูบเนื้อคนไทยศพแล้วศพเหล่า ที่ซ้ำร้ายไปกว่านั้นภูตแม่น้ำปิงมีอิทธิฤทธิ์ใช้อาวุธสมัยใหม่อย่างเช่นแก๊สน้ำตาฆ่าคนไทยอย่างเช่นน้องโบว์

แม้นว่าภูตแม่น้ำปิงจะร้ายเพียงใดวิธีแต่จะปราบอิทธิฤทธิได้นั้นก็คือการแพร่เมตตาอย่างที่แม่บัวผลันทำอยู่ทุกช้าค่ำ แม้นตอนที่บัวผลันกำลังจะตกเป็นทาสของภูติแม่น้ำโขงจะบีบแม่ แม่ของบัวผลันก็ได้อโหสิกรรมแผ่เมตตาให้ ทำให้บัวผลันฉุกคิด ซึ่งเชื่อว่าก็จะเป็นเกาะกำพังป้องกันภูตแม่น้ำได้ และจะช่วยให้ภูตแม่น้ำปิงเห็นผิดเป็นชอบ ลดละมิจฉาทิฐิความหลงผิดว่าตัวเองจะต้องยิ่งใหญ่คงกระพันไปชั่วนิรันดร์

เพราะอันลาภ ยศ สรรเสริญ สุข อำนาจนั้นเป็นโลกธรรม ไม่วันหนึ่งก็เสื่อมสลายไป จะเหลืออยู่เพียงธรรมสมบัติ และคุณงามความดีเท่านั้น

หากพระอาจารย์ของภูติแม่น้ำปิงยังคิดว่าคนที่ภูตแม่น้ำปิงสูบเลือด(สีแดง)อยู่นั้นก็คือญาติคนไทยด้วยกันแล้ว ก็ควรที่จะสั่งสอนให้ภูติแม่น้ำปิงให้พ้นจากความพยาบาท ไม่ก่อกรรมทำเข็ญกับคนไทยไปมากกว่านี้เลย หากพระอาจารย์ของภูติแม่น้ำปิงไม่ทำดังกล่าวแล้วก็ไม่ต่างอะไรกับนักบวชเถื่อนที่ใช้ศาสนาหากินแสวงหาลาภ ยศ คนนับถือเท่านั้น

ชาวบ้านริมโขงในอดีตโชคดียังมีพ่อของบัวและหมออัคนีคอยช่วยล้างอาถรรพ์ชี้ทาสว่างให้ แต่สำหรับคนไทยขณะนี้จะมีใครเหล่าทำหน้าที่ล้างอาถรรพ์ของภูตแม่น้ำปิงให้หลงผิดเป็นชอบ เลิกหลอกสูญเลือดเนื้อคนไทย ให้คนไทยพ้นจากการเป็นอสูรได้

และยังไม่ทันข้ามวันปรากฎว่าวันที่ 3 พ.ย.บริวารของภูตแม่น้ำปิงก็ออกอาละวาดอีกครั้ง โดยเข้าไปปิดล้อมสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ศูนย์ข่าวภาคเหนือ จ.เชียงใหม่ เพราะไม่พอใจที่เสนอข่าวระบุม็อบเสื้อแดงรับเงินหัวละ 2,000-3,000 บาท ไปร่วม เพื่อไปร่วมงานครอบครัวความจริงวันนี้ ที่สนามกีฬาราชมังคลากีฬาสถาน กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 1 พ.ย. ที่ผ่านมา เพื่อฟังโฟนอินคนชื่อทักษิณ โดยบอกว่าทำให้เสียหาย ช่วงเย็นได้ไล่พนักงานออกไปหมดพร้อมกับนำกุญแจมาล็อดและขู่จะเผาหากไม่ขอโทษ

มหาเนชั่น

http://www.mhanation.net/

รายงาน
วันจันทร์ ที่ 3 พฤศจิกายน 2551

ไม่มีความคิดเห็น: